- ปรับปรุงล่าสุด 16/10/2023
ใครที่พึ่งเป็นสิวครั้งแรก หรือสิวกลับมาเห่ออีกครั้ง สิวจากการแต่งหน้า สิวก่อนประจำเดือน ที่ได้ฝากรอยแดง รอยดำ หลุมสิว และแผลเป็นจากสิวไว้หลังจากเกิดการอักเสบ ทำให้ความมั่นใจเราลดลง กว่ารอยสิวจะหายไปค่อนข้างใช้เวลาเลยใช่มั้ยคะ พี่รัศมีก็เป็นอีกคนนึงที่มีปัญหาเรื่องนี้เหมือนกัน รอยสิวเดิมกำลังจาง สิวใหม่ก็ขึ้นมาอีก เซงสุดๆ แต่ว่ารอยสิว เกิดจากอะไรกัน มีวิธีรักษาไหนบ้างง่ายๆที่เราสามารถดูแลรักษาเองได้ โดยไม่ต้องพึ่งคลินิกทำหน้า ได้โดยการใช้ ครีมลดรอยสิว ที่มีรัศมีจะมารีวิวให้ดูกันในวันนี้ค่ะ
Top 3 ครีมลดรอยสิว ที่ดีที่สุด
สาเหตุของการเกิดรอยสิว
รอยสิว นั้นเราต้องเข้าใจก่อนว่าอะไรคือสาเหตุของมัน เริ่มต้นจากอะไรบ้าง ไปดูกันค่ะ เมื่อ“สิว”ผุดขึ้นบนผิวของเรา แสดงว่าบริเวณนั้นเกิดการอักเสบ และในขณะที่ผิวของเราทำการรักษาตัวเองและเซลล์ผิวใหม่ก่อตัวขึ้น เมื่อสิวหัวดำ หรือสิวหัวขาวเกิดการอักเสบ ระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายจะส่งเซลล์เม็ดเลือดขาวไปยังบริเวณนั้นเพื่อต่อสู้กับการติดเชื้อ สิ่งนี้สามารถทำลายเนื้อเยื่อรอบ ๆ และทำให้เกิดแผลเป็นได้ความเสี่ยงในการเกิดรอยสิวหรือแผลเป็นจากสิว
จะยิ่งแย่ลงหากว่าเรา แคะ บีบ หรือแกะสิว เพราะจะทำให้การอักเสบแย่ลงและเพิ่มโอกาสในการเกิดแผลเป็นนั้นเองค่ะ การรักษาสิวที่ดีจะช่วยลดความเสี่ยงของการเกิดแผลเป็นหากแผลเป็นจากสิวพัฒนาขึ้น
มีตัวเลือกการรักษามากมาย รวมถึงครีมเฉพาะที่ เช่น การลอกผิวด้วยสารเคมี เข็มขนาดเล็ก การรักษาด้วยเลเซอร์ และขั้นตอนการผ่าตัด เช่น การกรอผิว หรือการกระตุ้นคอลลาเจน
ประเภทของรอยสิวและรอยแผลเป็นจากสิว
1. Atrophic Scars
คือ แผลหลุมสิว เป็นแผลเป็นจากสิวประเภทที่พบได้บ่อย เกิดจากการที่สารคอลลาเจนในชั้นผิวหนังถูกทำลายจนทำให้เกิดเป็นหลุมสิว
2. Ice Pick Scars
คือ รอยสิวแบบจุดหลุมลึก จะที่มีลักษณะลึกและแคบ และมีก้นหลุมที่แหลมลึกลงไปในผิว
3. Rolling Scars
คือ หลุมสิวแบบคลื่น ก้นหลุมที่ตื้นกว่ารอยสิวแบบจุดหลุมลึก
4. Boxcar Scars
คือ หลุมสิวแบบกล่อง มีลักษณะรอยหลุมสิวที่กว้างและมีขนาดใหญ่ ที่ก้นหลุมสิวจะกว้างกว่ารอยสิวแบบจุดหลุมลึก โดยจะสามารถมองเห็นขอบหลุมได้ชัดเจน
5. Hypertrophic หรือ Keloid Scars
เป็นรอยแผลเป็นที่นูนขึ้นมาจากผิวหนัง
6. รอยดำ (PIH)
แบบนี้ไม่ใช่แผลเป็นค่ะ แต่เป็นผิวหนังที่คล้ำขึ้นในบริเวณที่เกิดสิว เกิดขึ้นเมื่อร่างกายผลิตเมลานินมากเกินไปในระหว่างกระบวนการรักษา
7. ผื่นแดง(PIE)
รอยอีกประเภทหนึ่งคือ PIE มีลักษณะการเปลี่ยนสีเป็นสีแดงหรือสีชมพูที่บริเวณรอยโรคสิว เกิดจากการอักเสบและอาจใช้เวลาหลายเดือนกว่าจะจางลง
รู้กันแล้วใช่มั้ยคะว่าประเภทของรอยแผลเป็นจากสิวมีอะไรกันบ้าง รอยสิวบางประเภทเราสามารถมารถรักษาได้เองโดยไม่ต้องพึ่งมือหมอ เช่น การรักษารอยนูน รอยแดง รอยดำจากสิว และจุดด่างดำบนใบหน้า แต่บางประเภทพี่รัศมีขอแนะนำว่าเราควรปรึกษาผู้เชี่ยวชาญ เพื่อให้เราสามารถทำการรักษาได้อย่างมีประสิทธิภาพ เมื่อรู้อย่างนี้แล้ว เราก็จะพอมาดูกันว่าผิวและรอยสิวของแต่ละคนเนี่ย เหมาะกับการใช้ผลิตภัณฑ์แบบไหน ประเภทไหนและยี่ห้อไหนดี
วิธีเลือกครีมลดรอยสิว
1. ครีมลดรอยสิวผสมเรตินอยด์ (Retinoids)
เป็นอนุพันธ์ของวิตามินเอที่จะผสมในครีมลดรอยสิว และสามารถช่วยปรับลักษณะของแผลเป็นจากสิวโดยการเพิ่มการผลิตคอลลาเจนและการผลัดเซลล์ผิว
2. ครีมลดรอยสิวผสมกรดไฮดรอกซี (Hydroxy acids)
ได้แก่ กรดอัลฟ่าไฮดรอกซี (AHAs) และกรดเบต้าไฮดรอกซี (BHAs) เช่น กรดไกลโคลิกและกรดซาลิไซลิก ทำงานโดยการผลัดเซลล์ผิวและกระตุ้นการผลัดเซลล์ ซึ่งช่วยลดแผลเป็นได้
3. ครีมลดรอยสิวผสมวิตามินซี (Vitamin C)
ครีมลดรอยสิวจะผสมสารต้านอนุมูลอิสระนี้สามารถช่วยให้ผิวกระจ่างใสและลดรอยดำที่เกิดจากแผลเป็นจากสิว
4. ครีมลดรอยสิวผสมไนอาซินาไมด์ (Niacinamide)
เป็นรูปแบบหนึ่งของวิตามินบี 3 ที่สามารถช่วยปรับเนื้อผิวและลดรอยดำ
5. ครีมลดรอยสิวผสมซิลิโคน (Silicone)
ส่วนผสมนี้ในครีมลดรอยสิว สามารถช่วยปรับพื้นผิวและลักษณะของแผลเป็นโดยการสร้างเกราะป้องกันบนชั้นผิวหนัง
หากใครที่มีผิวแพ้ง่าย สารบางชนิดอาจจะใช้ไม่ได้และก็ยิ่งจะทำให้ผิวแย่ลง พี่รัศมีแนะนำว่า สิ่งสำคัญคือต้องเลือกครีมลดรอยสิวที่อ่อนโยนและไม่ระคายเคือง มองหาครีมที่ระบุว่า “ไม่ก่อให้เกิดสิว” เพราะจะไม่ทำให้เกิดการอุดตันของรูขุมขน ให้มองหาครีมที่มีส่วนผสมที่อ่อนโยน เช่น ว่านหางจระเข้ ดอกคาโมไมล์ หรือสารสกัดจากข้าวโอ๊ตแทน
สิ่งสำคัญคือต้องเลือกครีมลดรอยสิวที่เหมาะกับสภาพผิวของเราและปฏิบัติตามคำแนะนำอย่างระมัดระวัง ครีมบางชนิดอาจรุนแรงเกินไปสำหรับผิวบอบบาง และบางชนิดอาจไม่แรงพอสำหรับการรักษาแผลเป็นจากสิวที่รุนแรง
หากไม่แน่ใจว่าจะเลือกครีมลดรอยสิวชนิดใด ควรปรึกษาแพทย์ผิวหนังที่สามารถแนะนำแผนการรักษาตามความต้องการและประเภทผิวจะดีที่สุดค่ะ
เลือกซื้อ ครีมลดรอยสิว ยี่ห้อไหนดี ?
ครีมลดรอยสิวโดยรวม ที่ดีที่สุด
1. Hiruscar Post Acne
ครีมลดรอยสิวตัวนี้จะมาในรูปแบบเจลใส ควรเริ่มใช้ผลิตภัณฑ์ หลังจากสิวหายแล้วและยุบตัว เป็นรอยแดงๆก็จะเริ่มเห็นผล เจลตัวนี้สามารถลดรอยสิวได้ทั้ง ลดรอยดำและรอยแดง ทำให้รอยดูจางลง ไม่ก่อให้เกิดการอุดตัน พี่รัศมีว่าตัวนี้เหมาะกับคนที่มีผิวแพ้ง่ายนะคะ มี MPS ช่วยดูแลรอยให้ดูเรียบขึ้น และที่สำคัญ คือไม่มีแอลกอฮอล์ ไม่ก่อให้เกิดอาการระคายเคืองกับผิว ตัวนี้หากใช้ติดต่อกัน ภายใน 4 สัปดาห์รับรองว่าเห็นผลดีแน่นอนค่ะ
- ช่วยลดรอยแดงและรอยดำจากสิว
- เนื้อเจลซึมไว ไม่เป็นคราบ
- ไม่อุดตัน
- ใช้เวลานานกว่ารอยจะจางลง
จุดเด่น | ครีมลดรอยสิวแบบเจลใส ลดรอยดำ ลดรอยแดง ที่เกิดจากสิว ช่วยให้รอยสิว แลดูจางลง ผิวแลดู เรียบเนียนสม่ำเสมอ |
ส่วนประกอบสำคัญ | MPS – Allium Cepa -Pionin, Vit B3 – Allantonin |
เนื้อสัมผัส | เนื้อเจล |
เหมาะกับ | รอยสิว |
ปริมาณ | 10 g. |
ครีมลดรอยสิว รัศมีแนะนำ
2. Puricas Dragon’s Blood Scar Gel
สายบีบสิว กดสิวต้องมีเลยค่ะตัวนี้ หรือที่คนส่วนมากเรียกว่าครีมลดรอยสิวดราก้อนบลัด เนื้อเป็นเจลสีแดง กลิ่นจะแรงนิดนึง แค่รับรองว่าผลลัพธ์เกินราคามากค่ะ พี่รัศมีแนะนำว่าควรทาหลังล้างหน้าเช้า-เย็น จะดีมากๆ รีวิวจากผู้ใช้จริงเค้าบอกเลยนะคะว่าเห็นผลภายใน 2 สัปดาห์เลย ตัวนี้เนี่ยจะเหมาะกับรอยสิวทั่วไป อาจจะไม่ทำให้พวกรอยแผลเป็นใหญ่ๆหายวับ แต่สำหรับใครที่ต้องพบเจอปัญหารอยดำ รอยแดงจากสิว ตัวนี้ปังแน่นอน
- เนื้อเจลซึมไว
- ช่วยสมานผิว
- ไม่ระคายเคืองต่อผิว
- กลิ่นแรง
- ซึมช้า
จุดเด่น | ครีมลดรอยสิวที่ช่วยสมานแผล ลดการอักเสบ เติมเต็มชั้นผิว และช่วยให้ผิวกลับคืนสู่สภาพเดิม |
ส่วนประกอบสำคัญ | Dragon’s Blood, Allium Cepa, Aloe Vera, Ipomoea, Centella Asiatica, Allantoin, Vitamin E, Vitamin C |
เนื้อสัมผัส | เนื้อเจล |
เหมาะกับ | รอยแผลเป็น รอยแดงจากสิวและรอยสิว |
ปริมาณ | 15 g. |
ครีมลดรอยสิว เห็นผลไว RADICAL
3. RADICAL
ครีมลดรอยสิว รอบแผลเป็นตัวนี้ดังมากเลยค่ะในทวิตเตอร์ เห็นผลเร็ว สำหรับใครที่มีรอยสิว รอยแดงจากสิว ลดรอยฟกช้ำ รอยเขียว รอยไหม้ หรือ รอยแผลเป็น เค้าช่วยได้หมดจริงๆ จุดเด่นเลยคือ ลดการสังเคราะห์เม็ดสีเมลานินทำให้รอยดำนั้นจางไป บรรเทาอาการอักเสบจากสิวและยัง ปรับสีผิวให้เสมออีกด้วย สรรพคุณดีขนาดนี้ ไม่ไปตำไม่ได้แล้วจ้า ตัวครีมไม่เหนียวเหนอะหนะด้วยนะ
- เนื้อเกลี่ยง่าย
- ซึมไว
- ไม่ระคายเคืองต่อผิว
- ใช้เวลานานกว่ารอยจะจางลง
จุดเด่น | ครีมลดรอยสิว ลดรอยดำ รอยแดง เติมความชุ่มชื้นให้ผิว ลดรอยฟกช้ำ รอยยุงกัด |
ส่วนประกอบสำคัญ | วิตามินซี, รากชะเอม, น้ำมันดอกกุหลาบป่า, มะนาวคาเวียร์ , อัลฟ่าอาร์บูติน |
เนื้อสัมผัส | เนื้อครีม |
เหมาะกับ | รอยไหม้, ลดรอยแผลเป็น, ลดรอยแดงและลดรอยดำ |
ปริมาณ | 8 g. |
เจลลดรอยแผลเป็น
4. Dermatix Ultra Gel
สำหรับตัวนี้เป็นลูกรักของคนมีรอยแผลเป็นเลยก็ว่าได้ค่ะ ทั้งจากการผ่าตัด อุบัติเหตุ ไฟไหม้ น้ำร้อนลวก รอยแดงจากสิว ครีมลดรอยสิวตัวนี้ เค้าจะช่วยได้ทั้งรอยแผลเป็น และรอยสิว ถึงตัวน้องเค้าจะเป็นลักษณะแบบเจล ก็ไม่ทำให้รู้สึกเหนอะหนะบริเวณที่ทา ซึ่งหากมีแผลเป็นระยะแรกๆแล้วใช้ ก็จะเห็นผลชัดตั้งแต่ 1 เดือนแรกเลยค่ะ ผิวอ่อนนุ่มขึ้น รอยจางลงไปเยอะเลย ทาได้ทั้งรอบแผลเป็นและรอยสิวเลยนะคะ ใช้แค่เมล็ดถั่วเขียวก็เห็นผลค่ะ
- ช่วยให้ผิวอ่อนนุ่ม
- ไม่รู้สึกเหนอะหนะ
- ราคาแพง
จุดเด่น | ช่วยให้แผลเป็นในระยะแรกนั้นอ่อนนุ่มขึ้น รอยแดงจากสิว จุดด่างดำจากสิวให้จางลงได้ |
ส่วนประกอบสำคัญ | CPX และ Vitamin C |
เนื้อสัมผัส | เนื้อเจล |
เหมาะกับ | รอยแผลเป็น ลดรอยดำ ลดรอยแดง และรอยแผลผ่าตัด |
ปริมาณ | 9 g. |
ครีมแก้รอยสิว
5. Smooth E Cream
หากใครที่ชอบผลิตภัณฑ์แบบธรรมชาติ สารสกัดจากธรรมชาติที่บำรุงผิวเราได้เต็มทีก็ต้องครีมลดรอยสิวสมูทอีเลยค่าาา ปราศจากน้ำหอมและสารเคมีที่ทำให้หน้าเราระคายเคือง ตัวนี้เค้าจะช่วยในเรื่องของ เติมความชุ่มชื้นให้กับผิว ช่วยลดรอยสิว ลดเลือนจุดด่างดำที่เกิดจากสิว รอบแผลเป็นก็รักษาได้นะคะ สำหรับตัวนี้ ใครที่อยากเห็นผลเร็วก็ต้องใช้ติดต่อกันเป็นประจำนะ พี่รัศมีก็ใช้อยู่ค่ะ อาจจะไม่ได้ลดจุดด่างดำจากสิวทันที แต่ลอยก็จะค่อยๆจางไปในที่สุด แต่ที่ชอบที่สุดก็คงจะเป็นหน้าเรานุ่มขึ้นเนี่ยแหละ จากสารสกัดของวิตามินอี ต้องไปตำกันแล้วนะ
- ช่วยเติมความชุ่มชื้นให้ผิว
- ไม่ระคายเคืองต่อผิวบอบบาง
- ช่วยลดรอยสิว
- ค่อนข้างเหนียวเหนอะหนะ
จุดเด่น | ซึมซาบอย่างล้ำลึกเข้าสู่ผิวชั้นในสุดที่เกิดปัญหา เติมความชุ่มชื้นให้ผิว และสมานรอยแผลเป็น แผลเป็นสิว รอยแผลเป็น ริ้วรอย จุดด่างดำ รอยแดงจากสิว |
ส่วนประกอบสำคัญ | 100% natural Alpha-Tocopherol (Natural Vitamin E), Centella Essence (CAE), Cetomacrogol, Glycerylmonostearate, Cetostearyl alcohol, Propylene glycol, Butylene glycol, dl-alfa-tocopherol (Vitamin E), Vitamin E, Aloe Vera, Aloesin, Jojoba oil, Cucumber oil, Bronopol, Myacide, Aqua, Perfume |
เนื้อสัมผัส | เนื้อครีม |
เหมาะกับ | รอยแผลเป็น รอยสิว และริ้วรอย |
ปริมาณ | 100 g. |
ครีมรักษาสิว
6. La Roche-Posay Effaclar DUO(+)
ตัวนี้นอกจากเป็นครีมลดรอยสิวแล้ว ก็ยังทำให้หน้าชุ่มชื้น ไม่ลอกด้วยนะ ใครที่เคยใส่เจลแต้มสิวจะรู้ดีว่าหน้าตรงส่วนนั้นจะลอกเป็นขุยหรือรู้สึกแห้ง เพราะยาบางชนิดค่อนข้างแรงและไม่เหมาะกับผิวบอบบาง ตัวนี้เนี่ยขายดีมากๆ คนที่ผิวบอบบางแพ้ง่ายต้องลองเลยจ้า ยิ่งสิวผดนี่คือยืน 1 สิวหายไปจริงๆหลังใช้ตัวนี้แล้ว เนื้อครีมเป็นลักษณะบางเบา ไม่เหนียวเหนอะหนะ ใช้เป็นเมคอัพเบสได้เลยนะ ส่วนมากเค้าจะทาตัวนี้ควบคู่ไปกับการรักษาสิว รับรองว่าเห็นผลดีเยี่ยมแน่นอนค่ะ ช่วงนี้เค้ามีโปรบ่อยด้วย ไปตำกันเลย!
- ช่วยเติมความชุ่มชื้นให้ผิว
- ครีมไม่เหนอะหนะ
- ป้องกันการเกิดซ้ำของสิว
- หลอดเล็ก หมดเร็ว
จุดเด่น | ปลอบประโลมผิว ลดเลือนจุดด่างดำ รอยสิว ฟื้นบำรุงผิว จากมลภาวะ และปัญหาจากสิว |
ส่วนประกอบสำคัญ | ANTI-UV ANTIOXIDANT XL PROTECT |
เนื้อสัมผัส | เนื้อครีม |
เหมาะกับ | จุดด่างดำ รอบสิว สิวผด |
ปริมาณ | 40 g. |
ครีมลดรอยดำ
7. SkinRx Lab Medecera Cream
คนที่มีผิวแพ้ง่าย เป็นสิว พี่รัศมีคิดว่าผิวคนเอเชียอย่างเราควรเลือกใช้สกินแคร์ที่เหมาะกับประเภทผิวของเรา อย่างเช่น สกินแคร์ที่มาจากประเทศเกาหลี จะเห็นผลดีมากเลยค่ะ เช่น ครีมลดรอยสิว ของ SkinRx Lab ตัวนี้ดังมากในทวิตเตอร์ ความสามารถของเค้าเป็น ครีมลดรอยแดงจากสิว รอยดำ ฝ้า กระ ช่วยฟื้นฟูผิวให้แข็งแรง กระจ่างใส จุดด่างดำดูจางลง ใครอยากผิวหน้าดีเหมือนสาวเกาหลีต้องโดนแล้วค่ะ
- ช่วยลดรอยแดง
- ไม่ทิ้งความมันบนใบหน้า
- ลดฝ้า กระ จุดด่างดำ
- ช่วยลดรอยสิว
- ใช้เวลาในการรักษา
- ขนาดเล็ก
จุดเด่น | ช่วยฟื้นฟูผิวให้แข็งแรง กระจ่างใส จุดด่างดำดูจางลง |
ส่วนประกอบสำคัญ | Madecassoside, Ceramide, Niacinamide, Adenosine |
เนื้อสัมผัส | เนื้อครีม |
เหมาะกับ | รอยแดงจากสิว รอยสิว รอยฟกช้ำ แผลไฟไหม้ |
ปริมาณ | 5 g. |
ยาแต้มสิว ที่ดีที่สุด
8. Tomei Anti-Acne Cream Plus
ตัวนี้ขึ้นชื่อว่าเป็นผลิตภัณฑ์ของคนเป็นสิวอีกตัวเลยก็ว่าได้ เป็นไอเทมสำหรับเวลาสิวผุด รับรองว่า ครีมลดรอยสิว Tomei เค้าจัดการสิวรวมถึงรอยสิวได้ดี เช่น รอยแดงจากสิว ช่วยยับยั้งเชื้อสิว หรือที่เราเรียกว่า P.acne นั่นเอง ลดการเกิดซ้ำของสิว ช่วบผลัดเซลล์ผิว ให้ผิวดูกระจ่างใส ไม่เป็นรอยดำ ตัวเนื้อนั้นบางเบา ซึมลงผิวได้ดี ไม่เหนียวเหนอะหนะ แน่นอนค่ะ
- ลดการอักเสบ ช่วยผลัดเซลล์ผิวและลดการอุดตัน
- ลดความมัน
- ช่วยสมานผิวและกระชับรูขุมขน
- ลดรอยสิว รอยดำและรอยแดง
- เนื้อค่อนข้างเหนียว
จุดเด่น | ครีมลดรอยสิวที่จัดการสิวแบบไม่ทิ้งรอย พร้อมช่วยบำรุงผิวให้กระจ่างใส ลดรอยแดงและรอยแผลเป็นจากสิว |
ส่วนประกอบสำคัญ | Skin identical ceramide complex, Niacinamide |
เนื้อสัมผัส | เนื้อครีม |
เหมาะกับ | ลดรอยแดงและรอยแผลเป็นจากสิว |
ปริมาณ | 9 g. |
ครีมรักษารอยแผลเป็นจากสิว
9. Dr. Somchai Acne Repair Cream
ใครที่มีรอยสิวเยอะ ใช้ครีมตัวไหนมาก็ไม่จางลงซักที พี่รัศมีรับรองว่าตัวนี้ครีมลดรอยสิว ดร.สมชาย ปังแน่นอนค่ะ รอยสิวทั้งรอยดำ และ รอยแดงจากสิว จางลงไปแบบอึ้ง แต่ต้องใจเย็นๆนะคะ เพราะเค้าจะค่อยๆรักษารอยให้จางลงไป แต่ตัวนี้ใช้ทาบริเวณสิวอักเสบจะดีมาก ถ้ายิ่งใช้คู่กับครีมทาสิวยิ่งดีเลยค่ะ
- ลดการอักเสบของสิวได้ดี
- รอยสิวจากลง อย่างเห็นได้ชัด
- ป้องกันการเกิดซ้ำของสิว
- ช่วยลดรอยสิว รอยดำและรอยแดง
- ไม่เหมาะกับคนผิวมัน
- ราคาไม่คุ้มกับปริมาณ
จุดเด่น | ช่วยบำรุงผิวให้ขาวกระจ่างใส ลดจุดด่างดำ และ รอยแดงจากสิว เปล่งปลั่งดูสุขภาพดี เพิ่มความชุ่มชื้นแก่ผิว และควบคุมความมันส่วนเกินบนใบหน้า |
ส่วนประกอบสำคัญ | Vitamin C, Vitamin E, Zinc PCA, Alpha-Bisabolol, Allantoin, Aloe Vera & Sodium PCA, Non-Comedogenic, Fragrance-free, Alcohol-free, Colorant-free |
เนื้อสัมผัส | เนื้อครีม |
เหมาะกับ | รอยสิว |
ปริมาณ | 7 g. |
เจลลดรอยสิว
10. Mederma Intense Gel
Mederma เป็นยี่ห้อครีมลดรอยต่างๆและครีมลดรอยสิวที่ใครๆหลายคนก็ตกหลุมรัก ใช้ได้สำหรับทุกรอยแผลเป็นจากสิวที่หายยาก รอยผ่าตัด จุดด่างดำ รอยแดงจากสิว เนื้อเป็นเจลใส เราจะสามารถเห็นการเปลี่ยนแปลงของรอยแผลได้ภายใน 2-4 สัปดาห์ เมื่อใช้ต่อเนื่องเป็นประจำเลยล่ะค่ะ เค้าแนะนำว่าทาเพียง 1 ครั้งต่อวัน เป็นประจำทุกวันก็เพียงพอแล้ว
- ปรับสีผิวให้ดูสม่ำเสมอ
- ช่วยให้ผิวนุ่มและดูเรียนเนียน
- ไม่ระคายเคืองผิว
- ราคาแพง
จุดเด่น | ช่วยลดทั้งรอยแผลเป็นใหม่และเก่า, รอยแผลคีลอยด์ และรอยแผลผ่าตัด ลดเลือนร่องรอยจุดด่างดำจากสิวให้จางลงได้ |
ส่วนประกอบสำคัญ | Cepalin®, Allantoin, Sodium Hyaluronate |
เนื้อสัมผัส | เนื้อเจล |
เหมาะกับ | รอยแผลเป็น รอยสิว รอยแผลคีลอยด์ และรอยแผลผ่าตัด |
ปริมาณ | 20 g. |
ทริคการดูแลสิว จากพี่รัศมี
การรักษาสิวให้หายขาดจะต้องมีความอดทนมาและใช้เวลามากเช่นกันค่ะ หากใครยังไม่ทราบว่าเรามีสิวประเภทไหน พี่รัศมีแนะนำให้อ่านบทความเกี่ยวกับ เรามีสิวประเภทไหนกัน เพื่อให้เราเข้าใจและสามารถค้นพบวิธีรักษาสิวที่เหมาะกับเราได้มากที่สุดนอกเหนือจากการดูแลโดยใช้ครีมลดรอยสิว เรามาดูกันดีกว่า เมื่อสิวเกิดแล้ว เราจะสามารถดูแลยังไง เพื่อไม่ให้มันแย่ลงไปอีก มาดูวิธีดูแลสิวได้เองที่บ้านกันค่ะ
1. หลีกเลี่ยงการสัมผัสใบหน้า
การสัมผัสใบหน้าจะก่อให้แบคทีเรีย และควรหลีกเลี่ยงการแกะหรือบีบสิว เพราะจะทำให้เกิดแผลเป็นและเกิดสิวตามมา
2. ให้ความชุ่มชื้น
ใช้มอยเจอร์ไรเซอร์ที่ไม่ก่อให้เกิดการอุดตัน เพื่อให้ผิวเรามีชุ่มชื้นและป้องกันความแห้งกร้าน การทามอยส์เจอร์ไรเซอร์จะช่วยให้หน้าเราได้รับความชุ่มชื้นที่เพียงพอและไม่ผลิตน้ำมันออกมาเพิ่มมากเกินไปนั่นเอง
3. ใช้ผลิตภัณฑ์รักษาสิว
ใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสม เช่น เบนโซอิลเปอร์ออกไซด์ กรดซาลิไซลิก หรือกรดอัลฟ่าไฮดรอกซีสามารถช่วยลดสิวได้โดยการทำให้รูขุมขนไม่อุดตันและลดการอักเสบ
4. การรับประทานอาหาร
อาหารบางชนิดสามารถกระตุ้นให้เกิดสิวได้ ควรหลีกเลี่ยงอาหารที่มีน้ำตาลหรืออาหารที่ค่อนข้างมัน และพยายามรับประทานอาหารที่สมดุลด้วยผักและผลไม้จะดีที่สุดค่ะ
5. จัดการกับความเครียด
ความเครียดมีส่วนทำให้เกิดสิวโดยการเพิ่มการผลิตฮอร์โมนที่ทำให้เกิดการผลิตน้ำมัน หาวิธีจัดการกับความเครียด เช่น ออกกำลังกาย ทำสมาธิ หรือการหายใจลึกๆ
6. ปรึกษาแพทย์ผิวหนัง
หากสิวค่อนข้างรุนแรงหรือไม่ตอบสนองต่อการรักษากับยาแต้มหรือยาทาต่างๆ เราควรจะทำการปรึกษาแพทย์ผิวหนังจะดีที่สุดค่ะ เพราะคุณหมอสามารถให้คำแนะนำในการรักษาต่อไปได้ เช่น การรักษาด้วยเลเซอร์หรือการลอกผิด้วยสารเคมี
7.รักษาความสะอาดของใบหน้า
ล้างหน้าวันละสองครั้งด้วยคลีนเซอร์ที่อ่อนโยนซึ่งเหมาะสำหรับผิวที่เป็นสิวง่าย หลีกเลี่ยงการใช้สบู่แรง ๆ หรือการขัดหน้าแรงเกินไป เพราะจะทำให้ผิวระคายเคืองและทำให้สิวแย่ลงได้
ส่งท้ายบทความ ครีมลดรอยสิว
สิว เกิดได้ก็สามารถรักษาได้เช่นกันค่ะ ไม่ต้องกังวลไปนะคะ เราสามารถทำการรักษาได้เองและใช้ครีมลดรอยสิวอย่างสม่ำเสมอเป็นประจำก็ช่วยให้รอยจางไปได้ดีเช่นกันค่ะ รวมถึงสามารถใช้ครีมกันแดดที่ตอบโจทย์คนเป็นสิวโดยเฉพาะ ควบคู่ไปด้วยเพื่อป้องกันผิวของเราจากแดดที่อาจจะทำหน้าเราสิวเห่อมากกว่าเดิมจากความมันและความร้อนจากแดด
เรื่องสิวจะต้องใช้เวลาหน่อยและค่อยๆเป็นค่อยๆไปค่ะ การเกิดสิวไม่ได้เกิดขึ้นแค่เพียงเพราะว่าเราสกปรกหรือไม่รักษาความสะอาดนะคะ แต่ด้วยปัจจัยหลายๆอย่าง ไม่ว่าจะเป็นพันธุกรรมหรือฮอร์โมนก็ส่งผลให้เกิดสิวได้ พี่รัศมีอยากจะให้ทุกคนรู้สึกดีกับตัวเองจากข้างในแล้วจะทำให้เราผ่อนคลายลง เริ่มศึกษาเกี่ยวกับผิวของเราและหาทางรักษาที่ถูกวิธีและถูกประเภท แล้วผิวของเรานั้นจะกลับมาเปล่งปลั่งได้อย่างแน่นอนค่ะ
คำถามที่พบบ่อย
1. เราจะป้องกันรอยดำจากสิวและรอยแผลเป็นจากสิวได้อย่างไร?
การป้องกันรอยดำจากสิวและรอยแผลเป็นจากสิว ต้องดูแลผิวตรงนั้นให้สะอาด ควรใช้ผลิตภัณฑ์ที่ไม่ก่อให้เกิดการอุดตัน และหลีกเลี่ยงการแกะหรือบีบสิว สิ่งสำคัญคือต้องหลีกเลี่ยงการสัมผัสกับแสงแดดและสวมครีมกันแดดเพื่อปกป้องผิว และทาครีมลดรอยสิวเป็นประจำทุกวันหลังสิวเริ่มหายนั่นเอง
2. ครีมลดรอยดำจากสิว ทำงานอย่างไร?
ครีมลดรอยดำจากสิว มักมีส่วนผสมอย่างเช่น ไฮโดรควิโนน กรดโคจิก หรือกรดไกลโคลิก จะช่วยทำให้จุดด่างดำจางลงโดยการยับยั้งการผลิตเมลานิน และส่วนผสมอื่นๆ เช่น กรดซาลิไซลิกหรือเบนโซอิลเปอร์ออกไซด์ ช่วยให้รูขุมขนไม่อุดตันและป้องกันการเกิดสิวใหม่นั่นเอง
3. รอยสิว กับ แผลเป็น วิธีการรักษาเหมือนกันมั้ย?
รอยสิวมักจะเป็นรอยตื้นๆจากผิวหนังของเรา ใช้เวลาไม่กี่อาทิตย์ก็สามารถจางลงได้ แต่รอยแผลเป็นนั้นจะกำจัดได้ยากในเวลาสั้นๆค่ะ เพราะแผลเป็นคือเนื้อเยื่อที่เสียหาย อาจจะต้องใช้เวลาในการรักษานานกว่า
4. การรักษารอยดำจากสิวด้วยเลเซอร์ เห็นผลดีมั้ย?
เห็นผลดี แน่นอนค่ะ เพราะว่า การรักษาด้วยเลเซอร์สามารถช่วยลดเลือนจุดด่างดำที่เกิดจากสิวได้อย่างมีประสิทธิภาพ เลเซอร์จะกำหนดเป้าหมายไปที่เมลานินในผิวหนัง ทำลายเซลล์ และลดการเกิดรอยดำ
สิ่งสำคัญที่ควรทราบคือการรักษาด้วยเลเซอร์สำหรับจุดด่างดำที่เกิดจากสิวอาจไม่เหมาะสำหรับทุกคน สิ่งสำคัญคือต้องปรึกษาแพทย์ผิวหนังเพื่อกำหนดแนวทางการรักษาที่ดีที่สุดโดยพิจารณาจากความรุนแรงของอาการ ประเภทของผิว และปัจจัยอื่นๆ นอกจากนี้ การรักษาด้วยเลเซอร์อาจมีราคาสูงและอาจต้องทำหลายครั้งเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ต้องการ