เผยผิวเนียน กระจ่างใส ด้วยการผลัดเซลล์ผิวหน้า

การดูแลผิวอย่างเหมาะสมมีความสำคัญเป็นอย่างมากในชีวิตประจำวันของเรา ซึ่งการผลัดเซล์ผิวหน้าถือเป็นการดูแลผิวที่ให้ผลลัพธ์ดีมากๆเลยล่ะค่ะ สกินแคร์รูทีนที่กำลังได้รับความนิยมมากๆ อย่าง 10 step Korean skin care routine ก็มีขั้นตอนนี้อยู่ด้วยนะคะ สิ่งที่สำคัญคือเราต้องเข้าใจแนวทางการปฏิบัติที่ดีที่สุดด้วยนะคะ บทความนี้พี่รัศมีเลยจะมาแนะนำแนวทางให้ทุกคนเข้าใจพื้นฐานของการผลัดเซลล์ผิวหน้า เพื่อที่จะสามารถปรับให้เข้ากับสกินแคร์รูทีนของทุกคนได้อย่างเหมาะสมค่ะ

เริ่มตั้งแต่การทำความเข้าใจว่าการผลัดเซลล์ผิวหน้าคืออะไร ทำไมถึงจำเป็น ควรทำบ่อยแค่ไหน ไปจนถึงผลิตภัณฑ์ตัวไหนที่ดีและเหมาะกับสภาพผิวแต่ละประเภทค่ะ พี่รัศมีขอบอกเลยว่า พี่รัศมีเตรียมข้อมูลมาแน่นๆให้ทุกคนได้อ่านกันแบบครบจบในบทความนี้กันเลยทีเดียว

ด้วยเคล็ดลับในการเตรียมผิว คำแนะนำในการเลือกผลิตภัณฑ์ที่เหมาะสม และวิธีการผลัดเซลล์ผิวแบบที่ได้ผลที่สุด รับรองว่าถ้าทำตามแล้ว ผิวเนียนสวย กระจ่างใส จะตกมาเป็นของเราอย่างแน่นอน

การผลัดเซลล์ผิวหน้าคืออะไร?

การผลัดเซลล์ผิวเป็นกระบวนการดูแลผิวที่เกี่ยวข้องกับการขจัดเซลล์ผิวที่ตายแล้วออกจากผิวหนังชั้นนอกสุดของเราค่ะ โดยกระบวนการนี้ทำได้โดยการใช้วัสดุที่ใช้สำหรับขัดผิว เช่น สครับ แปรง หรือผ้า หรือจะเป็นการผลัดเซลล์ผิวแบบเคมีที่ใช้กรดจำพวกกรดซาลิไซลิก หรือกรดไกลโคลิกก็ได้เช่นกันค่ะ ซึ่งการผลัดเซลล์ผิวจะเป็นการทำงานโดยการคลายและขจัดเซลล์ผิวที่ตายแล้วที่อยู่บนผิวและอุดตันรูขุมขน อันเป็นสาเหตของผิวแห้งและผิวดูหมองคล้ำได้นั่นเอง ทำให้การผลัดเซลล์ผิวหน้าถือเป็นส่วนสำคัญของขั้นตอนการดูแลผิวเลยล่ะค่ะ

ประโยชน์ของการผลัดเซลล์ผิวหน้าเนี่ย ไม่เพียงแต่ช่วยขจัดเซลล์ผิวที่ตายแล้วเท่านั้นนะคะ แต่ยังช่วยเผยผิวที่สดใสและสุขภาพดีขึ้นได้ด้วยค่ะ ช่วยลดความหมองคล้ำ ปรับสีผิว และส่งเสริมการผลัดเซลล์ผิวหน้าเพื่อให้ผิวดูอ่อนเยาว์ยิ่งขึ้น นอกจากนี้ การผลัดเซลล์ผิวหน้ายังช่วยให้สกินแคร์ต่างๆ เช่น เซรั่มและมอยส์เจอไรเซอร์สามารถซึมลึกเข้าไปในผิวเราได้มากขึ้น ทำให้ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้นนั่นเองค่ะ

ประเภทของการผลัดเซลล์ผิวหน้า

การผลัดเซลล์ผิวหน้าถือเป็นส่วนสำคัญของขั้นตอนการดูแลผิว เราต้องเลือกประเภทของผลิตภัณฑ์ผลัดเซลล์ผิวหน้าให้เหมาะกับประเภทและปัญหาผิวของเราด้วยนะคะ เพราะการผลัดเซลล์ผิวหน้ามีทั้งแบบกายภาพและแบบเคมี ซึ่งแต่ละประเภทก็จะทำงานต่างกันในการทำให้ผิวเรียบเนียนและกระจ่างใสขึ้น

1. การผลัดเซลล์ผิวหน้าแบบกายภาพ

จะเป็นการขัดบนผิวหน้าเพื่อขจัดเซลล์ผิวที่ตายแล้วโดยใช้อุปกรณ์และผลิตภัณฑ์ที่มีความอ่อนโยนในการช่วยขัดผิว ด้วยสครับ หรือ หิน เป็นต้นค่ะ

2. การผลัดเซลล์ผิวหน้าแบบเคมี

การผลัดเซลล์ผิวหน้าแบบเคมีจะใช้ กรดหรือเอนไซม์ ในการละลายเซลล์ผิวที่ตายแล้ว รวมถึงสิ่งที่อุดตัวรูขุมขนต่างๆออกค่ะ การใช้ผลิตภัณฑ์ผลัดเซลล์ผิวหน้าที่เหมาะกับประเภทผิวของเราจะทำให้เราได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด แต่ก็อย่าใช้มากเกินไปนะคะ เพราะจะทำให้ผิวเกิดการระคายเคืองได้ค่ะ

ประโยชน์ของการผลัดเซลล์ผิวหน้า

การผลัดเซลล์ผิวหน้าเป็นกระบวนการขจัดเซลล์ผิวเก่าที่ตายแล้วออก เพื่อเผยเซลล์ผิวใหม่ที่มีสุขภาพดี โดยการผลัดเซลล์ผิวหน้าจะอยู่มี 2 ประเภทค่ะ ได้แก่ การผลัดเซลล์ผิวหน้าแบบกายภาพ และแบบเคมี

การผลัดเซลล์ผิวหน้าแบบกายภาพ – จะเป็นการใช้วัสดุที่ใช้สำหรับขัดผิว เช่น สครับ เพื่อขัดเซลล์ผิวที่ตายแล้วออก เหมาะกับทุกประเภทผิว 

การผลัดเซลล์ผิวหน้าแบบกายภาพจะสามารถทำความสะอาดผิวอย่างล้ำลึก แต่ก็ควรใช้เท่าที่จำเป็นเท่านั้นนะคะ เพื่อไม่ให้เกิดการระคายเคือง หรือความแห้งกร้านบนผิวของเรา

การผลัดเซลล์ผิวหน้าแบบเคมี – จะเป็นการใช้ กรดซาลิไซลิก หรือ กรดไกลโคลิกเพื่อละลายเซลล์ผิวเก่าออกไปค่ะ เหมาะมากที่สุดสำหรับคนที่มีผิวแห้งหรือผิวแพ้ง่าย และคนที่ผิวมันหรือผิวผสมก็สามารถใช้วิธีนี้ได้เชนกัน

การเลือกซื้อผลิตภัณฑ์ผลัดเซลล์ผิวหน้าแบบเคมี ให้มองหาส่วนผสม เช่น กรดแลคติค กรดเบต้าไฮดรอกซี (BHA) กรดอัลฟ่าไฮดรอกซี (AHA) และกรดไกลโคลิก ส่วนผสมเหล่านี้จะสามารถช่วยสลายสิ่งอุดตันในรูขุมขน และลดริ้วรอยได้ด้วยค่ะ การผลัดเซลล์ผิวหน้าแบบเคมีสามารถทำให้ผิวที่หมองคล้ำดูสว่างขึ้นได้ โดยการเร่งการผลัดเซลล์ โดยไม่มีฤทธิ์กัดกร่อนที่ทำอันตรายต่อผิวค่ะ 

การใช้การผลัดเซลล์ผิวหน้าในรูปแบบที่เหมาะสมต่อประเภทผิวเราอย่างสม่ำเสมอ จะได้ผลลัพทธ์ที่จะทำให้ผิวสุขภาพดี ช่วยปรับสภาพผิวให้เนียน และปรับโทนผิวให้กระจ่างใส เปล่งประกายมากขึ้น และยิ่งเมื่อใช้ร่วมกับสกินแคร์อื่นๆ ก็ยิ่งทำให้ได้ผลลัพทธ์ที่ดียิ่งขึ้นอีกด้วยค่ะ!

ประเภทของผลิตภัณฑ์สำหรับผลัดเซลล์ผิวหน้า

การผลัดเซลล์ผิวหน้าถือเป็นส่วนสำคัญของขั้นตอนการดูแลผิว เราต้องเลือกประเภทของผลิตภัณฑ์ผลัดเซลล์ผิวหน้าให้เหมาะกับประเภทและปัญหาผิวของเราด้วยนะคะ เพราะการผลัดเซลล์ผิวหน้ามีทั้งแบบกายภาพและแบบเคมี ซึ่งแต่ละประเภทก็จะทำงานต่างกันในการทำให้ผิวเรียบเนียนและกระจ่างใสขึ้น ผลิตภัณฑ์ผลัดเซลล์ผิวหน้าแบบกายภาพจะเป็นการขัดบนผิวหน้าเพื่อขจัดเซลล์ผิวที่ตายแล้ว ในขณะที่ผลิตภัณฑ์ผลัดเซลล์ผิวหน้าแบบเคมีจะใช้กรดหรือเอนไซม์ในการละลายเซลล์ผิวที่ตายแล้ว รวมถึงสิ่งที่อุดตัวรูขุมขนต่างๆออกค่ะ การใช้ผลิตภัณฑ์ผลัดเซลล์ผิวหน้าที่เหมาะกับประเภทผิวของเราจะทำให้เราได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด แต่ก็อย่าใช้มากเกินไปนะคะ เพราะจะทำให้ผิวเกิดการระคายเคืองได้ค่ะ

ผลิตภัณฑ์ผลัดเซลล์ผิวหน้าแบบกายภาพ

ผลิตภัณฑ์ผลัดเซลล์ผิวหน้าแบบกายภาพจะประกอบไปด้วยส่วนผสมที่สามารถใช้ในการขัดผิวได้ เช่น โจโจบาบีดส์ เมล็ดแอปริคอต หรือไมโครคริสตัลธรรมชาติ เพื่อขจัดเซลล์ผิวที่ตายแล้วและเปิดรูขุมขน โดยมีความอ่อนโยนพอที่จะสามารถใช้ 2-3 ครั้งต่อสัปดาห์ได้ เหมาะสำหรับคนที่มีผิวมันค่ะ 

ตัวอย่างของการผลัดเซลล์ผิวหน้าแบบกายภาพ ได้แก่ การขัดหน้าด้วยน้ำตาล หินภูเขาไฟ และมาสก์ดินเหนียว ผลิตภัณฑ์ผลัดเซลล์ผิวหน้าแบบกายภาพที่เป็นสครับถือเป็นที่นิยมมากที่สุดเลยล่ะค่ะ เนื่องจากใช้งานง่าย และยังสามารถเลือกส่วนผสมให้เหมาะกับสภาพผิวต่างๆได้ด้วย พัมมิกส์ และโจโจ้บาบีดส์ เป็นสครับผิวที่ดีที่พี่รัศมีแนะนำเลยค่ะ เนื่องจากมีความอ่อนโยนพอที่จะใช้กับผิวที่บอบบางได้ด้วยนั่นเอง

ควรหลีกเลี่ยงการใช้ส่วนผสมพวก: เปลือกถั่ว เมล็ดผลไม้ และเกลือนะคะ เพราะส่วนผสมเหล่านี้สามารถทำร้ายผิวหน้าของเราได้ และสำหรับคนที่มีผิวแพ้ง่ายควรเลือกใช้ส่วนผสมที่อ่อนโยนเป็นพิเศษ เช่น ไม้ไผ่หรือผงข้าวค่ะ 

ผลิตภัณฑ์ผลัดเซลล์ผิวหน้าแบบเคมี

ในส่วนของผลิตภัณฑ์ผลัดเซลล์ผิวหน้าแบบเคมีจะประกอบด้วยกรดหรือเอนไซม์ที่ละลายเซลล์ผิวได้ค่ะ กรดอัลฟ่าไฮดรอกซี (AHA) เช่น กรดไกลโคลิกและกรดแลกติก กรดเบต้าไฮดรอกซี (BHA) เช่น กรดซาลิไซลิก และเรตินอยด์ล้วนเป็นส่วนผสมยอดนิยมที่พบในผลิตภัณฑ์ผลัดเซลล์ผิวหน้าแบบเคมีค่ะ ในส่วนของส่วนผสมที่เป็นเอนไซม์ก็จะเป็นพวก เอนไซม์มะละกอ เอนไซม์โบรมีเลน เอนไซม์ฟักทอง ปาเปน และโบรมีเลน ก็ถือเป็นที่นิยมใช้เช่นกัน แม้ว่าการผลัดเซลล์ผิวหน้าแบบเคมีจะอ่อนโยนกว่าการผลัดเซลล์ผิวหน้าแบบกายภาพ แต่ก็ยังสามารถก่อให้เกิดการระคายเคืองได้เช่นกันนะคะถ้าเราใช้บ่อยเกินไป 

นอกจากนี้ผลิตภัณฑ์ผลัดเซลล์ผิวหน้าแบบเคมี ยังสามารถช่วยลดเลือนริ้วรอยและร่องลึกได้อีกด้วยนะคะ อย่างไรก็ตาม คนที่มีผิวแพ้ง่ายควรเริ่มแบบเบาๆก่อนจะดีกว่าค่ะ ควรใช้ผลิตภัณฑ์ผลัดเซลล์ผิวหน้าแบบเคมีสัปดาห์ละครั้งหรือสองครั้งก่อน เพื่อทดสอบว่าผิวหนังมีปฏิกิริยาอย่างไร

สิ่งที่สำคัญเลยคือต้องจำไว้ว่าประเภทผิวที่แตกต่างก็ต้องการการผลัดเซลล์ผิวที่แตกต่างกันค่ะ การผลัดเซลล์ผิวหน้าแบบกายภาพจะมีประสิทธิภาพมากกว่าสำหรับคนที่มีผิวมัน เนื่องจากสามารถช่วยขจัดน้ำมันส่วนเกินที่สะสมออกไปได้ด้วยค่ะ แต่ในทางกลับกัน คนที่มีผิวแห้งหรือผิวแพ้ง่าย การใช้ผลิตภัณฑ์ขัดผิวแบบเคมีจะดีมากกว่าค่ะ เนื่องจากมีความอ่อนโยนกว่านั่นเอง สำหรับคนที่มีผิวผสมสามารถใช้ได้ทั้งแบบกายภาพและแบบเคมีเลยล่ะค่ะ

การผลัดเซลล์ผิวหน้าแบบธรรมชาติ

ควรทำการผลัดเซลล์ผิวหน้าบ่อยแค่ไหน?

เมื่อพูดถึงการผลัดเซลล์ผิวหน้า โดยทั่วไปแล้ว สำหรับคนผิวธรรมดาและผิวมัน ควรทำ 2-3 ครั้งต่อสัปดาห์ก็เพียงพอแล้วค่ะ เพราะจะช่วยขจัดเซลล์ผิวที่ตายแล้ว คลายรูขุมขน และเผยผิวที่เปล่งประกาย แต่สำหรับผิวประเภทอื่นๆ อาจต้องปรับจำนวนครั้งให้เหมาะกับผิวประเภทนั้นๆด้วยนะคะ เช่น คนที่มีผิวแห้งหรือผิวแพ้ง่าย ควรลดความถี่ในการผลัดเซลล์ผิวหน้าลงเหลือสัปดาห์ละ 1 ครั้ง หรือสัปดาห์เว้นสัปดาห์จะดีที่สุดค่ะ เพราะสำหรับคนที่มีผิวแห้งและผิวบอบบางแพ้ง่าย ถ้าทำการผลัดเซลล์ผิวหน้าบ่อยเกินไป จะเป็นการทำร้ายผิวให้เกิดการระคายเคืองได้ค่ะ ส่วน คนที่ผิวที่เป็นสิวง่าย สามารถทำการผลัดเซลล์ผิวหน้าได้ทุกวันเลยค่ะ เนื่องจากจะสามารถช่วยลดการเกิดสิวในอนาคตได้ แต่ระวังอย่าขัดแรงๆ หรือใช้ผลิตภัณฑ์ผลัดเซลล์ผิวหน้ามากเกินไปนะคะ การขัดถูมากเกินไปอาจทำให้เกิดการระคายเคืองและรอยแดงได้ ควรเริ่มในปริมาณที่น้อยและปรับให้เหมาะสมตามหลังค่ะ

ผิวธรรมดา

สำหรับคนที่มีผิวธรรมดาควรผลัดเซลล์ผิวหน้าสัปดาห์ละประมาณ 2-3 ครั้งค่ะ เพื่อขจัดเซลล์ผิวที่ตายแล้ว คลายรูขุมขน และเผยผิวที่เปล่งประกาย โดยสามารถทำการผลัดเซลล์ผิวหน้าได้ทั้งแบบกายภาพ เช่น สครับขัดหน้า หรือแปรง และแบบเคมี เช่น กรดไกลโคลิก เลยค่ะ และเพื่อหลีกเลี่ยงการทำให้ผิวเกิดการระคายเคือง ควรเริ่มต้นด้วยการขัดผิวเบาๆอย่างอ่อนโยนในปริมาณน้อยๆก่อนค่ะ 

ผิวแห้ง ผิวแพ้ง่าย

สำหรับคนที่มีผิวแห้ง หรือผิวแพ้ง่าย อาจจะต้องดูแลเป็นพิเศษเมื่อทำการผลัดเซลล์ผิวหน้านะคะ เนื่องจากประเภทผิวมีแนวโน้มที่จะเกิดการระคายเคืองได้มากกว่าค่ะ การขัดผิวสัปดาห์ละครั้งเป็นจำนวนที่เหมาะสมที่สุดสำหรับคนที่มีผิวประเภทนี้ ช่วยขจัดเซลล์ผิวที่ตายแล้ว และเผยผิวที่เปล่งประกาย ควรใช้ผลิตภัณฑ์ผลัดเซลล์ผิวหน้าแบบเคมี เนื่องจากมีความอ่อนโยนกว่าแบบกายภาพนั่นเอง แต่สิ่งสำคัญคือต้องเริ่มด้วยความเข้มข้นต่ำก่อนนะคะ แล้วค่อยๆเพิ่มขึ้นภายหลังได้ค่ะ

ผิวผสม

สำหรับคนที่มีผิวผสม สามารถทำการผลัดเซลล์ผิวหน้าได้ทั้งสองแบบเลยค่ะ ทั้งแบบกายภาพ และแบบเคมี หรือจะทำทั้งคู่ก็ได้นะคะ เพื่อให้ได้ผลลัพธ์สูงสุด โดยควรทำการผลัดเซลล์ผิวหน้าแบบกายภาพ เช่น การสครับหน้า ประมาณ 2-3 ครั้งต่อสัปดาห์เพื่อขจัดเซลล์ที่ตายแล้วและกระตุ้นการไหลเวียนโลหิต และใช้ผลิตภัณฑ์ผลัดเซลล์ผิวแบบเคมีอย่างอ่อนโยนสัปดาห์ละครั้ง เพื่อให้ได้ผิวที่เปล่งประกายที่แบบที่ใครๆก็ต้องการเลยล่ะค่ะ!

ทริคสำหรับการผลัดเซลล์ผิวหน้า

การผลัดเซลล์ผิวหน้าถือเป็นวิธีการบูสผิวหน้าของเราที่ได้ผลมากๆเลยล่ะค่ะ การขจัดเซลล์ที่ตายแล้วออกจะช่วยให้ผิวของเราเรียบเนียนขึ้น สว่างขึ้น และสีผิวสม่ำเสมอมากขึ้น แต่ต้องทำยังไงให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด พี่รัศมีขอนำเสนอทริคเล็กๆน้อยๆที่จำเป็นต้องรู้เกี่ยวกับการผลัดเซลล์ผิวหน้ามาให้แล้วค่ะ

อย่างแรกที่สำคัญเลยคือ

การเตรียมผิวของเราให้พร้อม

ก่อนที่เราจะเริ่มขจัดเซลล์ที่หมองคล้ำออก ควรล้างหน้าให้สะอาดหมดจดก่อนเลยค่ะ

นวดผลิตภัณฑ์ผลัดเซลล์ผิวหน้า

แบบกายภาพ  เช่น สครับประเภทต่างๆ เบาๆเป็นวงกลม แล้วค่อยล้างออกด้วยน้ำอุ่น

แบบเคมี ให้หยดผลิตภัณฑ์ลงบนแผ่นสำลี แล้วเช็ดหน้าเบาๆค่ะ 

อย่าลืมเติมความชุ่มชื้นให้ผิวด้วยมอยส์เจอร์ไรเซอร์

เพื่อช่วยปกป้องพื้นผิวจากความเสียหายนั่นเองค่ะ

ผู้หญิงกำลังทำการผลัดเซลล์ผิวหน้า

การดูแลผิวหลังการผลัดเซลล์ผิวหน้า

หลังจากที่ได้ทำการผลัดเซลล์ผิวหน้าแล้ว สิ่งสำคัญคือต้องดูแลผิวหลังจากนั้นให้ถูกต้องด้วยค่ะ การใช้มอยส์เจอไรเซอร์ต่อ จะเป็นการช่วยฟื้นฟูปราการความชุ่มชื้นของผิว จากนั้นปกป้องผิวหน้าจากรังสียูวีที่เป็นอันตรายด้วยครีมกันแดดที่เหมาะกับสภาพผิวของตัวเองค่ะ

สรุปบทความ เผยผิวเนียน กระจ่างใส ด้วยการผลัดเซลล์ผิวหน้า

การผลัดเซลล์ผิวหน้าเป็นส่วนสำคัญในการทำให้ผิวสะอาด สุขภาพดี และเปล่งปลั่ง ผลิตภัณฑ์ผลัดเซลล์ผิวหน้ามีทั้งแบบเคมี และแบบกายภาพ ควรใช้ประเภทที่เหมาะสมกับประเภทผิวของเรา ในความถี่และปริมาณที่พอดี และควรเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีความอ่อนโยน เพื่อหลีกเลี่ยงการเกิดการระคายเคืองต่อผิวหน้าค่ะ

หลังจากการใช้ผลิตภัณฑ์ผลัดเซลล์ผิวหน้า ควรบำรุงด้วยมอยส์เจอร์ไรเซอร์ต่อ เพื่อไม่ให้เกิดการระคายเคือง และเป็นการเพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิวนั่นเอง สิ่งสุดท้ายที่ขาดไม่ได้เลยคือ อย่าลืมทาครีมกันแดดด้วยนะคะ ด้วยการบำรุงที่เหมาะสม พี่รัศมีรับรองเลยค่ะ ว่าทุกคนจะได้ผลลัพท์ที่ผิวเนียน กระจ่างใส ได้อย่างแน่นอนเล้ยยย

คำถามที่พบบ่อย

1. ทำการผลัดเซลล์ผิวหน้าทุกวันได้ไหม?

ขึ้นอยู่กับประเภทผิวของเราค่ะ ทางที่ดี พี่รัศมีแนะนำให้ทำการผลัดเซลล์ผิวหน้าเพียงแค่ 2-3 ครั้งต่อสัปดาห์จะดีที่สุดค่ะ

2. ควรทำการผลัดเซลล์ผิวหน้าในตอนเช้าหรือตอนกลางคืน?

เวลาที่ดีที่สุดในการผลัดเซลล์ผิวหน้าคือตอนเช้าค่ะ เพราะในตอนกลางคืนระหว่างนอนหลับ ผิวของเราจะผลิตน้ำมันและสิ่งสกปรกต่างๆออกมา ซึ่งจะสามารถขจัดออกได้อย่างมีประสิทธิภาพด้วยการผลัดเซลล์ผิวหน้าในตอนเช้านั่นเองค่ะ

3. สามารถทำการผลัดเซลล์ผิวหน้าทุกวันได้มั้ย?

การผลัดเซลล์ผิวหน้าบ่อยเกินไปอาจทำให้เกิดการระคายเคือง ซึ่งอาจนำไปสู่การเกิดสิวและความแห้งกร้านได้ ดังนั้นจึงไม่แนะนำให้ทำทุกวันค่ะ ทางที่ดีควรใช้ใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีความอ่อนโยนและควรทำเพียง 2-3 ครั้งต่อสัปดาห์ขึ้นอยู่กับประเภทผิวของเราค่ะ

โพสต์ที่เกี่ยวข้อง

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *