ข้อแตกต่างระหว่างลิปทินท์กับลิปสเตน

ลิปทินท์กับลิปสเตน: ต่างกันอย่างไร?

สาวๆหลายคนน่าจะรู้จัก ลิปทินท์ กันเป็นอย่างดีอยู่แล้ว แต่ลิปสเตนอาจจะยังไม่ค่อยคุ้นชินใช่ไหมคะ หรือคนที่รู้อยู่แล้ว ก็อาจจะยังแยกไม่ค่อยออกระหว่าง ลิปทินท์กับลิปสเตน กันสักเท่าไหร่ เพราะลิปทินท์กับลิปสเตนนั้นมักถูกเข้าใจว่าเป็นลิปประเภทเดียวกัน บางครั้งก็ถูกเรียกชื่อสลับกันด้วยซ้ำ 

ถึงแม้ว่าลิปทั้ง 2 ประเภทนี้จะให้ผลลัพธ์ที่คล้ายๆกัน แต่จริงๆแล้วแตกต่างกันอย่างมากเลยค่ะ เค้าถึงแยกประเภทกันไปเลย โดยข้อแตกต่างหลักๆ คือเรื่องของความคมชัด และการติดทนนั่นเองค่ะ

วันนี้พี่รัศมีจะมาช่วยไขข้อสงสัยและเปรียบเทียบให้แบบชัดเจน ว่าลิปทินท์กับลิปสเตนต่างกันอย่างไร ลิปแบบไหนที่เข้ากับสไตล์การแต่งหน้าของเรา ส่วนใครยังไม่มีลิปทินท์ ไปตำกันได้เลยที่ 9 ลิปทินท์ตัวไหนดี สีชัด ติดทน พร้อมแล้ว ไปดูกันได้เลยค่ะ

ลิปทินท์ทาปากสีแดงระเรื่อ

ลิปทินท์ คืออะไร

ลิปทิ้นท์ (Lip tint) เป็นลิปที่มีต้นกำเนิดมาจากประเทศเกาหลีใต้ และเป็นที่นิยมไปทั่วโลก โดยเฉพาะสาวไทยอย่างเราๆที่ติดซีรีย์เกาหลีกันงอมแงม พอเห็นนางเอกใช้ลิปทินท์สีสวยๆก็ต้องไปหามาตำกันให้ได้เลย (พูดจากประสบการณ์ตรงของพี่รัศมีเองเลยค่ะ) ตัวลิปทินท์นั้นจะมีเบสเป็นน้ำ มีเนื้อค่อนข้างบางเบา ทำให้รู้สึกสบายปาก เกลี่ยง่าย ทำให้ได้สีที่ดูเป็นธรรมชาติทั่วทั้งปาก

ลิปทินท์ของILIA สีแดง

จุดเด่นของลิปทินท์

– เกลี่ยง่าย สามารถเกลี่ยไล่สีให้เป็นลุค Ombre ได้

– ลิปทินท์บางตัวสามารถนำมาทาบนแก้มแทนบรัชออน หรือจะใช้บนเปลือกตา

– ให้ความชุ่มชื้นแก่ริมฝีปาก ทำให้ finished look ดูฉ่ำวาวอย่างเป็นธรรมชาติ

– สามารถใช้กลบสีปากที่ไม่เท่ากันได้พอประมาณเลยค่ะ

วิธีทาลิปทินท์

       1. ทำความสะอาดริมฝีปาก และเช็ดให้แห้ง

       2. ทาลิปบาล์มเพื่อบำรุงริมฝีปากให้มีความชุ่มชื้นให้ปากดูอวบอิ่ม ทิ้งไว้ประมาณ 5-10 นาทีแล้วเช็ดออก

       3. ค่อยๆทาลิปทินท์จากด้านในของปากล่างไล่ออกมา แล้วเม้มปาก

       4. เติมลิปทินท์ที่ริมฝีปากบน ตามลุคที่อยากได้

       5. รอลิปเซตตัวประมาณ 20-30 วินาที

       6. เม้มปากบนทิชชู่เพื่อนำลิปส่วนเกินออก

ลิปสเตน คืออะไร

ลิปสเตน (Lip stain) เป็นลิปที่มีเบสเป็นน้ำหรือเจล ที่จะมีความติดทน เม็ดสีสด ชัด ไม่หลุดง่ายระหว่างวัน ลิปสเตนบางตัวสามารถอยู่ได้นานถึง 18 ชั่วโมงเลยนะคะ ตัวลิปสเตนจะติดอยู่บนปากเราเหมือนไปสักแบบชั่วคราวมาเลยล่ะค่ะ แถมยังเป็นลิปที่ค่อนข้างแห้งเร็ว ทำให้ติดทนนานทั้งวันเลยนั่นเอง

ในเรื่องของพิกเมนท์สีนั้นก็คือชัดในขนาดที่สามารถกลบสีปากเราได้อย่างเนียนสนิทเลยทีเดียว ใครที่สีปากไม่เท่ากัน ลิปสเตนคือตอบโจทย์ได้เลย โดยจะได้ finished look แบบแมทท์ หรือแบบวาวก็มีเช่นกันค่ะ

ลิปสเตนของColorpop

จุดเด่นของลิปสเตน

     – ติดทนยาวนาน ไม่ต้องเติมซ้ำระหว่างวัน

     – กลบสีปากได้อย่างแนบเนียน 

     – สีชัด ใช้เพียงปริมาณน้อยก็สามารถทาได้ทั่วทั้งปาก

     – ไม่ลอก ไม่เป็นคราบ

วิธีทาลิปสเตน

       1. ทำความสะอาดริมฝีปาก และเช็ดให้แห้ง

       2. ทาลิปบาล์มเพื่อบำรุงริมฝีปากให้มีความชุ่มชื้นให้ปากดูอวบอิ่ม ทิ้งไว้ประมาณ 5-10 นาทีแล้วเช็ดออก

       3. ทาลิปสเตนที่ริมฝีปากล่าง จากนั้นเม้มปาก

       4. เติมลิปสเตนที่ริมฝีปากบน ตามลุคที่อยากได้

       5. เนื่องจากลิปสเตนค่อนข้างแห้งไว จึงสามารเม้มปากบนทิชชู่หลังจากทา 5-10 วินาทีได้เลย

       6. ทาลิปบาล์มทับเพื่อความฉ่ำวาว

ตารางเปรียบเทียบ ลิปทินท์ และ ลิปสเตน

 

ลิปทินท์ (Lip tint)

ลิปสเตน (Lip stain)

ความชัดของสี

มีความชัดของสีที่ค่อนข้างเบากว่า เหมาะกับลุคธรรมชาติ

สีชัด และโทนสีส่วนมากจะเข้มกว่า 

ความชุ่มชื้น

ทำให้ปากดูชุ่มชื้นมากกว่า

เมื่อทาแล้วจะแห้งติดไปกับปาก

Finished look

ดูแมทแบบธรรมชาติ

มีทั้งแบบแมทท์ และแวววาว

ความติดทน

3-4 ชั่วโมง

6-18 ชั่วโมง

การปกปิด

ปกปิดได้พอประมาณ

ปกปิดได้อย่างเต็มที่

การเติมลิป

หลุดง่ายกว่าลิปสเตน ต้องเติมระหว่างวัน

ติดทนยาวนาน ไม่จำเป็นต้องเติมระหว่างวัน

การเกลี่ย

เกลี่ยง่าย ทาไล่สีได้

เนื่องจากลิปสเตนจะแห้งเร็ว จึงทำให้เกลี่ยได้ยาก

ถ้าพี่รัศมีจะสรุปง่ายๆ ก็คงพูดได้ว่า ลิปสเตนเป็นลิปที่มีเม็ดสีชัดกว่า ปกปิดและติดทนนานกว่า แต่ก็ต้องระวังในการทา เพราะค่อนข้างจะแห้งเร็ว ทำให้เกลี่ยยาก ส่วนลิปทินท์จะให้ลุคที่ดูเป็นธรรมชาติมากกว่า เกลี่ยง่าย แต่ติดทนได้ไม่เท่าลิปสเตนนั่นเอง

สำหรับใครที่รู้สึกสนใจตัวลิปทินท์ พี่รัศมีมีบทความดีๆมาฝากกันค่ะ นั่นคือ  5 เหตุผลที่ควรใช้ลิปทิ้นท์ ใช้ลิปทินท์แล้วมันปั๊วะ มันปังยังไงเข้าไปดูกันได้เลย

แต่ก่อนจะทาลิปใดๆ พี่รัศมีก็อยากมาแนะนำวิธีการบำรุงริมฝีปากเราให้มีสุขภาพดี ไม่ว่าจะทาลิปประเภทไหนก็สวย อวบอิ่มน่าจุ๊บเสมอเลยค่ะ

วิธีบำรุงริมฝีปากให้มีสุขภาพดี ทาลิปติดทนมากขึ้น

ใช้ลิปมาส์กอาทิตย์ละ 2-3 ครั้ง

ลิปมาส์ก เป็นลิปที่มีส่วนผสมของวิตามินและมอยส์เจอร์ไรเซอร์เข้มข้นที่ช่วยบำรุงริมฝีปากให้ดูอวบอิ่มน่าจุ๊บ และดูสุขภาพดี อย่างไรก็ตาม เราไม่ควรใช้ลิปมาส์กมากเกินไปเนื่องจากในลิปมาส์กมีส่วนผสมที่ช่วยในการผลัดเซลล์ผิว เพราะฉะนั้น ควรใช่แค่อาทิตย์ละ 2-3 ครั้งก็เพียงพอแล้วค่ะ

ลิปทินท์กับลิปสเตน - ลิปมาร์กสำหรับปาก

ใช้สครับปากอาทิตย์ละ 1-2 ครั้ง

การใช้ สครับปากจะช่วยผลัดเซลล์ผิว และลดการลอกเป็นขุยที่ริมฝีปาก ทำให้ริมฝีปากเรียบเนียนและนุ่มขึ้น โดยควรสครับปากไม่เกิน 1-2 ครั้งเท่านั้นนะคะ เพราะถ้าใช้สครับปากบ่อยเกินไป อาจทำให้ผิวที่ริมฝีปากบางได้ค่ะ

ลิปทินท์กับลิปสเตน - ใช้สครับปากอาทิตย์ละ 1-2 ครั้ง

ทาลิปบาล์มบำรุงทุกครั้งก่อนทาลิปชนิดอื่นๆ

ก่อนจะทาลิปสติกเพิ่มความสวยงามให้ริมฝีปากของเรา เราควรบำรุงริมฝีปากให้มีสุขภาพดีก่อนเสมอนะคะ โดยสามารถทาลิปบำรุงทิ้งไว้ตั้งแต่ก่อนเริ่มแต่งหน้า ทิ้งไว้ประมาณ 10-15 นาทีแล้วค่อยเช็ดออกก่อนทาลิปชนิดอื่นค่ะ 

ลิปทินท์กับลิปสเตน - ทาลิปบาล์มบำรุงปาก

เพียงเท่านี้เราก็สามารถมีริมฝีปากที่มีสุขภาพดี อวบอิ่มน่าจุ๊บได้ตลอดเวลาแล้วค่ะ สาวๆลองนำไปใช้กันนะคะ 

ส่งท้ายบทความ ลิปทินท์กับลิปสเตน ต่างกันอย่างไร

เป็นอย่างไรกันบ้างคะ พอรู้วิธีบำรุงริมฝีปากให้สุขภาพดีแล้ว รู้ความแตกต่างของลิปทินท์กับลิปสเตนแล้ว ทีนี้สาวๆก็สามารถไปเลือกซื้อลิปประเภทที่เหมาะกับการใช้งานของตัวเองได้แล้วค่ะ ถ้าให้พี่รัศมีแนะนำ จัดมาทั้งคู่ไปเลย! Why choose? When you can have both จริงมั้ยคะ อิอิ 😉

โพสต์ที่เกี่ยวข้อง