- ปรับปรุงล่าสุด 21/11/2023
การดูแลผิวหน้าด้วยการผลัดเซลล์ผิวถือว่าเป็นกระบวนการที่สำคัญอย่างหนึ่งที่ทุกคนไม่ควรมองข้ามเลยล่ะค่ะ เป็นหนึ่งใน 10 ขั้นตอน Skincare Routine ให้ผิวกระจ่างใสแบบสาวเกาหลี ที่โด่งดังในแวดวงสกินแคร์แบบสุด หลายคนอาจจะยังสงสัยว่าการผลัดเซลล์ผิวคืออะไร ช่วยในเรื่องอะไรบ้าง เราจำเป็นต้องผลัดเซลล์ผิวหน้าไหม และต้องทำบ่อยแค่ไหน วันนี้พี่รัศมีมีคำตอบมาให้ค่ะ พร้อมบอก 8 ประโยชน์ของการผลัดเซลล์ผิวมาให้แบบจัดเต็มเลยทีเดียว ถ้าพร้อมแล้วตามมาดูกันได้เลยค่าาา
การผลัดเซลล์ผิวหน้าคืออะไร
การผลัดเซลล์ผิวหน้า คือการผลัดเซลล์ผิวชั้นบนหรือเซลล์ผิวที่ตายแล้วออกไป ซึ่งจริงๆแล้วเป็นเรื่องธรรมชาติของร่างกายเรา เพราะการทำงานของเซลล์ผิวหนังจะมีการขจัดเซลล์ผิวเก่าที่ตายแล้ว หรือเซลล์ผิวที่เสื่อมสภาพออกไปจากชั้นบนสุดของผิวหน้า เพื่อให้เซลล์ผิวใหม่ขึ้นมาแทน โดยปกติแล้วการผลัดเซลล์ผิวมีรอบอยู่ที่ประมาณ 28 วัน แต่เราสามารถเร่งการการผลัดเซลล์ผิวได้โดยการใช้เทคนิคการดูแลผิวได้ค่ะ การผลัดเซลล์ผิวจะช่วยในการรักษาความสมดุลในระบบผิวหนัง ทำให้ผิวหน้าของเรากระจ่างใส และทำให้ครีมบำรุงผิวหรือเซรั่มของเราซึมซาบเข้าสู่ผิวได้ลึกขึ้น ผิวหน้าของเราดูมีสุขภาพดีและลดการเกิดสิว เพราะเซลล์ผิวที่ตายแล้วสามารถสะสมและอุดตันรูขุมขนได้ค่ะ
การผลัดเซลล์ผิวมีประโยชน์มากเมื่อเรามีอายุมากขึ้น เพราะอายุที่มากขึ้นทำให้การผลัดเซลล์ผิวและการสร้างผิวใหม่ทดแทนจะใช้เวลานานขึ้นตามอายุ เราต้องช่วยให้การผลัดเซลล์ผิวเป็นไปอย่างต่อเนื่องเพื่อป้องกันไม่ให้ผิวของเราดูหมองคล้ำ โดยการใช้เทคในการเร่งกระบวนการผลัดเซลล์ผิวนั่นเองค่ะ และการใช้ตัวช่วยเร่งกระบวนการผลัดเซลล์ผิวก็ควรทำอย่างถูกต้อง เพื่อที่จะได้ไม่ทำร้ายผิวหนังของเราจนเกิดรอยแผลหรือระคายเคืองค่ะ
ประเภทของการผลัดเซลล์ผิวหน้า
เมื่อเราอายุมากขึ้น การสร้างเซลล์ผิวใหม่ทดแทนก็ใช้เวลานานขึ้น ทำให้ผิวหนังชั้นนอกของเราเกิดการสะสมของเซลล์เก่าที่ตายแล้วและเป็นสาเหตุที่ทำให้ใบหน้าของเราดูหมองคล้ำไม่กระจ่างใส และดูผิวแห้งหยาบกร้าน และอาจทำให้เกิดการอุดตันของผิวที่เป็นสาเหตุของสิวด้วยเช่นกัน เราจึงต้องช่วยให้ผิวเราผลัดเซลล์เก่าทิ้งไปบ้าง โดยประเภทของการผลัดเซลล์ผิวหน้ามีอยู่ 2 ประเภทดังนี้ค่ะ
1.การผลัดเซลล์ผิวแบบกายภาพ: การขัดผิว
การผลัดเซลล์ผิวแบบกายภาพจะเป็นการการขัดผิวโดยใช้เครื่องมือค่ะ เช่น แปรงทำความสะอาดแบบสั่น หินขัด ใยขัดสำหรับผิวกาย หรือการขัดหน้าเพื่อขจัดเซลล์ผิวที่ตายแล้ว เช่น การใช้สครับ เป็นวิธีผลัดเซลล์ผิวง่ายๆที่ทำได้ด้วยตัวเองค่ะ เพราะเพียงแค่ขัดหรือถูโดยใช้สครับขัดหน้า ยิ่งเราใช้วิธีขัดผิวแบบอนุภาคละเอียดมากเท่าไหร่ ก็จะยิ่งดีขึ้นเท่านั้น หรือจะใช้เป็นสครับผิวจากธรรมชาติ เช่น เกลือ น้ำตาล เบคกิ้งโซดาก็ได้ เพียงแต่วิธีการขัดผิวนี้ก็มีข้อเสียเช่นกัน เพราะจะทำให้ผิวหนังของเราบางลง และทำให้เกิดการระคายเคืองได้ง่าย หรือถ้าขัดแรงหรือนานเกินไปก็ทำให้เกิดบาดแผลบนผิวหนังได้เช่นกันค่ะ
2.การผลัดเซลล์ผิวแบบเคมี: การใช้สารเร่งผลัดเซลล์ผิว
การขัดผิวแบบเคมีคือการใช้สารเร่งผลัดเซลล์ผิวเป็นตัวช่วยในการเร่งให้เซลล์ผิวชั้นนอกที่เป็นเซลล์ผิวเก่าที่ตายแล้วหลุดลอกออกไปเร็วกว่าปกติ ทำให้ผิวใหม่ดูกระจ่างใสขึ้นนั่นเองค่ะ สารเร่งผลัดเซลล์ผิวที่นิยมใช้กับผู้ที่มีปัญหาสิวมีอยู่ด้วยกันหลายตัว เช่นกลุ่ม กรดอัลฟ่าไฮดรอกซี (AHA) หรือกรดเบต้าไฮดรอกซี (BHA) จะช่วยให้รอยสิว จุดด่างดำต่างๆดูจางลง กระชับรูขุมขน และยังมีสามารถสลายสิ่งอุดตันในรูขุมขน
ได้ด้วย การใช้สารเร่งผลัดเซลล์ผิวต้องคำนึงถึงสภาพผิวของแต่ละบุคคลและฤทธิ์ของสารแต่ละตัวค่ะ เพราะสารในแต่ละกลุ่มมีฤทธิ์ในการผลัดเซลล์ผิว ฤทธิ์ในการสลายสิวอุดตันที่แตกต่างกัน รวมถึงความรุนแรงในการผลัดเซลล์ผิวก็มีระดับที่ต่างกันออกไปด้วยค่ะ
เคล็ดลับ 10 วิธีผลัดเซลล์ผิวหน้า เผยผิวสวยเนียนใส เปล่งประกาย
1. การเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ช่วยผลัดเซลล์ผิว
การเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ช่วยผลัดเซลล์ผิว ควรพิจารณาเลือกผลิตภัณฑ์ที่เหมาะสมกับประเภทผิวและความต้องการของผิวของเราค่ะ โดยเลือกผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนประกอบที่ช่วยกระตุ้นกระบวนการผลัดเซลล์ผิว เช่น กรดไกลโคลิก (Glycolic Acid), ซาลีซิลิกแอซิด (Salicylic Acid), วิตามิน C (Vitamin C), หรือเอ็นซิมา (Retinol) เป็นต้น และควรทำการทดลองกับผิวบริเวณเล็กๆก่อนเพื่อป้องกันการแพ้ที่อาจจะเกิดขึ้นค่ะ
2.การล้างหน้าอย่างถูกต้อง
การล้างหน้าอย่างถูกต้องจะช่วยให้กระบวนการผลัดเซลล์ผิวเกิดขึ้นได้ดีและผิวหน้าของเราจะดูสดใสและเปล่งปลั่งมากขึ้นค่ะ ควรใช้สบู่หรือโฟมล้างหน้าที่เหมาะสมกับประเภทของผิวหน้าและหลีกเลี่ยงการใช้สบู่หรือโฟมล้างหน้าที่มีส่วนผสมที่อาจทำให้ผิวแห้งหรือแพ้ง่าย ล้างหน้าอย่างนุ่มนวลด้วยน้ำอุ่นเพื่อเปิดรูขุมขนให้สามารถทำความสะอาดผิวหน้าได้อย่างหนดจน หรือจะใช้วิธีการล้างหน้าแบบ Double Cleansing ก็จะดีที่สุดค่ะ
3.การนวดหน้าเพื่อกระตุ้นการหมุนเวียนของเลือด
การนวดหน้าเป็นวิธีการที่มีประสิทธิภาพในการกระตุ้นการหมุนเวียนของเลือดบนใบหน้าค่ะ การนวดหน้าจะช่วยให้เลือดไหลเวียนอย่างเต็มที่และช่วยในการชำระล้างสิ่งสกปรกออกจากผิวหน้าได้ สามารถใช้เครื่งมือต่างๆช่วยในการนวดได้ค่ะ เช่น การใช้กัวซา ควรนวดหน้าตามแนวเส้นฝ้าและเส้นน้ำตา เพื่อช่วยกระตุ้นกระบวนการผลัดเซลล์ในพื้นที่ที่ควรต้องผลัดเซลล์ ให้เซลล์ผิวใหม่ๆเพิ่มมากขึ้นนั้นเองค่ะ
4.การเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับผิวหน้า
การเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับผิวหน้าเป็นขั้นตอนที่สำคัญเพื่อในกระบวนการผลัดเซลล์ผิวค่ะ หากผิวหน้าขาดความชุ่มชื้นอาจทำให้กระบวนการผลัดเซลล์ผิวไม่สามารรถทำงานได้อย่างเต็มที่ แต่เมื่อมีการผลัดเซลล์ผิวเกิดขึ้นจะทำให้ผิวหน้าของเรากระจ่างใสและอ่อนเยาว์มากขึ้นค่ะ สามารถเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับผิวหน้าโดยการใช้ครีมบำรุง หรือเซรั่ม เช่น ANUA Birch 70% Moisture Boosting Serum เซรั่มเติมความชุ่มชื้น พร้อมปลอบประโลมผิว ก็ได้ค่ะ ตามความสะดวกของเราเองเลย
5.การหลีกเลี่ยงสิ่งที่อาจทำให้ผิวเสียหาย
ควรหลีกเลี่ยงสิ่งที่อาจทำให้ผิวหน้าเสียหาย เช่น การสูบบุหรี่ การดื่มแอลกอฮอล์ การโดนแดดมากเกินไป และการใช้เครื่องสำอางที่มีส่วนผสมการบำรุงผิวที่ไม่เหมาะสม ซึ่งสิ่งเหล่านี้เป็นปัจจัยที่ทำให้ผิวหน้าเสียหาย อาจเกิดอันตรายต่อผิวหน้าของเราได้ และยังลดโคลลาเจนในผิวหน้าอีกด้วย ทำให้กระบวนการผลัดเซลล์ผิวเกิดขึ้นช้าลงมากค่ะ
6.การออกกำลังกายและการรักษาภูมิคุ้มกัน
ออกกำลังกายจะช่วยกระตุ้นการหมุนเวียนของเลือดและช่วยกระตุ้นให้เกิดการผลัดเซลล์ผิวได้ดีมากเลยค่ะ การรับประทานอาหารที่มีวิตามินซีและวิตามินอี หรือสารอาหารที่ช่วยบำรุนผิวหน้าก็มีความสำคัญเช่นกัน เพราะให้ร่างกายมีภูมิคุ้มกันที่ดี การมีภูมิคุ้มกันที่ดีจะช่วยให้ผิวหน้าและร่างกายอยู่ในสภาพที่ดี พร้อมต่อการผลัดเซลล์ผิวค่ะ
7.การทำสปาหน้าเป็นประจำ
การทำสปาผิวหน้าจะทำให้มีการผลัดเซลล์ผิวที่ดีขึ้นและลดอาการอักเสบของผิวหน้า ช่วยให้ผิวหน้าดูสดใสและเปล่งปลั่งมากขึ้น สามารถทำสปาผิวหน้าที่บ้านด้วยวิธีง่ายๆที่ทำเองได้ หรือหากมีงบเยอะพอประมาณควรไปทำในร้านสปากับมืออาชีพค่ะ การทำสปาผิวหน้าควรให้เป็นประจำเพื่อบำรุงสภาพผิวและเพิ่มความชุ่มชื่นผิวหน้าของเราอย่างต่อเนื่องค่ะ
8.การใช้สมุนไพร
การใช้สมุนไพรดูแลผิวหน้าเป็นวิธีหนึ่งที่มีความนิยมใช้กันมากในปัจจุบันค่ะ เพราะสมุนไพรมีสารสกัดธรรมชาติมีประโยชน์อย่างมาก จึงกลายเป็นตัวเลือกหนึ่งที่ถูกให้ความสนใจในการในช่วยการบำรุงผิว หรือการผลัดเซลล์ผิวนั้นเองค่ะ สมุนไพรที่สามารถช่วยการผลัดเซลล์ผิว เช่น มะขามเปียก ใบบอระเพ็ด หรือผลไม้สด ทำให้การผิวหน้าของเรากลับมากระจ่างใสและหมดปัญหาสิวค่ะ
9.การนอนหลับให้เพียงพอ
การนอนหลับที่เพียงพอเป็นสิ่งสำคัญที่ช่วยให้ร่างกายมีเวลาในการฟื้นฟูและผลัดเซลล์ผิวหน้าค่ะ ควรนอนหลับอย่างน้อย 7-8 ชั่วโมงต่อวันในเวลาเดียวกันทุกวัน เลือกหมอนและเตียงให้เหมาะสมกับรูปร่างของเราเพื่อทำให้รู้สึกสบายตัวเวลานอนและหลับได้ดี สร้างสภาพแวดล้อมในห้องนอนให้เงียบสงบและมืด สิ่งเหล่านี้จะทำให้กระบวนการผลัดเซลล์ผิวทำงานได้อย่างเต็มที่ค่ะ
10.การดื่มน้ำ
การดื่มน้ำเป็นปัจจัยสำคัญที่ช่วยกระตุ้นให้เกิดการผลัดเซลล์ผิวได้อย่างเหมาะสมค่ะ การดื่มน้ำที่มากพอจะช่วยในการเติมความชุ่มชื้นให้กับผิวหน้าไม่เพียงแต่จากด้านนอก แต่ยังจากด้านในด้วยค่ะ เพราะน้ำที่เราดื่มไปจะช่วยในกระบวนการย่อยอาหารและส่งสารอาหารสู่เซลล์ผิวอย่างดี ทำให้การผลัดเซลล์ผิวทำงานได้เต็มที่และผิวหน้าของเราจะดูมีความสดชื่นและกระจ่างใสมากขึ้นค่ะ
เราควรผลัดเซลล์ผิวบ่อยแค่ไหน?
โดยทั่วไปแล้ว จุดประสงค์ในการผลัดเซลล์ผิวคือช่วยให้กระบวนการผลัดเซลล์ผิวเป็นตามธรรมชาติของผิวเราอย่างอ่อนโยนเพื่อให้ใบหน้าของเรากระจ่างใส ไม่ทำให้ผิวหน้ามีรอยแดงหรืออาการระคายเคือง เราควรการผลัดเซลล์ผิวบ่อยแค่ไหนนั้นขึ้นอยู่กับประเภทผิวของเรานั่นเองค่ะ
สำหรับผิวมัน
สำหรับคนผิวมันอาจเห็นความมันบนใบหน้าได้ตั้งแต่เช้าเลยค่ะ และหากมีแนวโน้มที่จะเป็นสิวง่าย หรือรู้สึกว่ารูขุมขนอุดตันบ่อย ๆ นั่นมักจะเป็นสัญญาณบอกถึงการผลิตไขมันส่วนเกิน ซึ่งทำให้ผิวหน้ามันนั่นเองค่ะ แต่คนที่มีผิวหน้ามันสามารถผลัดเซลล์ผิวได้บ่อยครั้งกว่าสภาพผิวอื่น สามารถทำการผลัดเซลล์ผิวได้มากถึง 4 ครั้งต่อสัปดาห์ ทำได้อย่างต่อเนื่องและอย่างสม่ำเสมอ คนผิวมันสามารถทนต่อการผลัดเซลล์ผิวทั้งแบบการขัดและการใช้สารเร่งผลัดเซลล์ผิวได้ดีค่ะ ทางเลือกหนึ่งสำหรับการดูแลผิวหน้าของคนผิวมัน คือการใช้คลีนเซอร์ที่มีส่วนผสมของ AHA สองถึงสามครั้งต่อสัปดาห์ หรือจะใช้เรตินอลทุกวันก็ได้ค่ะ
สำหรับผิวธรรมดา
สำหรับผิวธรรมดาที่ไม่มีปัญหาเฉพาะเจาะจง ไม่มีปัญหาผิวแห้งหรือมัน แนะนำให้ผลัดเซลล์ผิว 2-3 ครั้งต่อสัปดาห์ค่ะ ซึ่งสามารถใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนประกอบช่วยในการผลัดเซลล์ผิวหน้า เช่น การใช้เรตินอยด์หรือโฟมทำความสะอาดหน้าที่มีส่วนผสมที่ช่วยล้างผิวอย่างอ่อนโยนและเพิ่มการผลัดเซลล์ ยังสามารถใช้สารเร่งการผลัดเซลล์ผิวอย่าง AHA และ BHA ช่วยกระตุ้นกระบวนการผลัดเซลล์ได้ค่ะ
สำหรับผิวแห้ง
การผลัดเซลล์ผิวสำหรับผิวแห้งควรทำประมาณ 1-2 ครั้งต่อสัปดาห์ แต่การผลัดเซลล์ผิวก็ขึ้นอยู่กับสภาพผิวและความต้องการของแต่ละบุคคลด้วยค่ะ สามารถใช้ผลิตภัณฑ์เพื่อช่วยกระตุ้นกระบวนการผลัดเซลล์ผิวได้ค่ะ เช่น ครีมหรือโฟมล้างหน้าที่มีส่วนผสมช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นกระตุ้นเซลล์ผิวใหม่ที่มีสุขภาพดีขึ้น ควรทดลองใช้และปรับการใช้ให้เเหมาะสมกับสภาพผิว เพื่อให้ได้ผลที่ดีที่สุดในการดูแลผิวหน้าค่ะ
สำหรับผิวแพ้ง่าย
การผลัดเซลล์ผิวสำหรับผิวแพ้ง่ายควรทำอย่างระมัดระวังและคำนึงถึงความต้องการของผิวแพ้ง่าย โดยทั่วไปแล้ว ควรปรับความถี่ให้เหมาะสมกับสภาพผิวและอาการแพ้ของแต่ละบุคคลค่ะ ความถี่การผลัดเซลล์ผิวสำหรับผิวแพ้ง่ายที่แนะนำคือควรทำประมาณ 1-2 ครั้งต่อสัปดาห์ โดยใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนประกอบที่เป็นมิตรต่อผิวแพ้ เช่น ครีมผลัดเซลล์หรือโฟมล้างหน้าที่มีส่วนผสมจากสมุนไพรธรรมชาติที่ช่วยลดความรุนแรงของอาการแพ้และกระตุ้นกระบวนการผลัดเซลล์ผิวใหม่ได้ค่ะ
สรุปบทความ วิธีผลัดเซลล์ผิวหน้าที่ถูกต้อง มีกี่วิธี ทำยังไงบ้าง?
ผิวหน้าที่ดี ดูกระจ่างใส ใครๆก็อยากมี แต่จะมีผิวหน้าที่ดีได้ควรเลือกวิธีการดูแลรักษาผิวให้เหมาะสม การผลัดเซลล์ผิวหน้าก็เป็นอีกหนึ่งวิธีที่ทำให้ผิวของทุกคนดูดี ดูกระจ่างใสขึ้นได้ค่ะ ซึ่งการผลัดเซลล์ผิวนั้นมีหลายรูปแบบ และหลากหลายวิธีมาก สามารถเลือกทำตามความสะดวกของเราและปรับให้เข้ากับสกินแคร์รูทีนของแต่ละคนได้เลยค่ะ ในหลายๆวิธีก็เป็นวิธีที่เราสามารถทำเองได้ที่บ้านง่ายๆ เพียงแค่ต้องมีวินัยในการทำ และต้องทำอย่างสม่ำเสมอ พี่รัศมีอย่างให้ทุกคนให้ความสำคัญกับผิวของเราให้มากๆ เพื่อผิวหน้าที่สวยงามและกระจ่างใสอยู่เสมอ อย่าลืมเอาใจใส่ให้ผิวหน้าของเราเองให้มากๆนะคะทุกคน บายยยยย
คำถามที่พบบ่อย
วิธีผลัดเซลล์ผิวหน้าที่ถูกต้องคืออะไร?
แนวทางของการผลัดเซลล์ผิวหน้า คือเราต้องทำความเข้าใจเกี่ยวกับประเภทของผิวหน้าของเราก่อนค่ะ เช่น ผิวแห้ง ผิวมัน หรือผิวที่มีปัญหาเกี่ยวกับสิวและจุดด่างดำ เพื่อเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่หรือความถี่ที่เหมาะสมกับผิวของเราเองค่ะ
ช่วงอายุไหนที่ควรผลัดเซลล์ผิวหน้าโดยใช้สารเร่งการผลัดเซลล์ผิว?
ช่วงอายุที่ควรผลัดเซลล์ผิวหน้าโดยใช้สารเร่ง คืออายุที่ 25 ปีขึ้นไปค่ะ เป็นช่วงนี้ผิวหน้ามักจะเริ่มแสดงอาการของความเสื่อมสภาพอย่างช้าๆ การผลัดเซลล์ผิวเกิดขึ้นช้าลง ทำให้ผิวหน้าอาจมีสิว ริ้วรอยได้ค่ะ
การผลัดเซลล์ผิวทำให้ผิวหน้าบางหรือไม่?
การผลัดเซลล์ผิวไม่ได้ทำให้ผิวหน้าบางค่ะ เพราะมันเป็นกระบวนการที่เกิดขึ้นธรรมชาติในผิวหนังของเรา ในขณะที่เซลล์ผิวเก่าถูกสลายและตัวใหม่เกิดขึ้น ซึ่งทำให้ผิวหน้าเราเปลี่ยนแปลงและความบางหนาของผิวอาจมีความแตกต่างขึ้นได้ แต่นั่นไม่ได้หมายความว่าผิวจะบางลงจริงๆนั่นเองค่ะ
