- ปรับปรุงล่าสุด 28/08/2023
การสครับผิว เป็นหนึ่งในวิธีการผลัดเซลล์ผิวแบบกายภาพ ไม่ว่าจะเป็นการสครับด้วยผลิตภัณฑ์จากแบรนด์สกินแคร์ต่างๆ หรือการสครับผิวด้วยวัตถุดิบธรรมชาติ เช่นน้ำตาล หรือกากกาแฟ เป็นวิธีดูแลผิวอีกรูปแบบหนึ่ง ที่ใครหลายๆคนมักทำเป็นประจำเพื่อผิวที่สวยและดูสุขภาพดีนั่นเองค่ะ แต่การสครับผิวเนี่ยเราก็ควรสครับผิวให้ถูกวิธีนะคะ ไม่งั้นผิวของเราอาจเกิดการเสียหายหรือเกิดการระคายเคืองได้ วันนี้พี่รัศมีเลยอยากจะมาแชร์เทคนิควิธีสครับผิวให้กับทุกคน สครับผิวยังไงให้ปัง และผิวไม่เสีย ถ้าพร้อมแล้วเราไปดูกันเลยค่ะ
การสครับผิวคืออะไร
การสครับผิว คือ การขัด หรือ การถู เพื่อทำความสะอาดผิว การสครับผิวจะช่วยในการขจัดสิ่งสกปรกที่อุดตันตามรูขุมขน รวมทั้งเซลล์ผิวเก่าที่เสื่อมสภาพที่เกาะอยู่บนบริเวณผิวหนังชั้นนอกให้สามารถหลุดออกได้เร็วขึ้นหรือพูดง่ายๆก็คือ เป็นหนึ่งในวิธีการผลัดเซลล์ผิวนั่นเองค่ะ การผลัดเซลล์ผิวด้วยวิธีสครับผิวจะช่วยขจัดเซลล์ผิวเก่าที่ตายแล้วและสิ่งสกปรก เช่น ฝุ่นละออง คราบเหงื่อ หรือที่รวมกันแล้วเราเรียกว่า ขี้ไคลออกไปจากผิวของเราค่ะ เป็นการขจัดเซลล์ผิวเก่า เผยเซลล์ผิวใหม่ที่ขาวกระจ่างใสขึ้นกว่าเดิม จึงทำให้ผิวดูเปล่งปลั่งและกลับมาเนียนนุ่มอีกครั้ง การสครับผิวถือเป็นส่วนสำคัญของการดูแลสุขภาพและความงามของร่างกายเราเลยล่ะค่ะ
การสครับผิวนั้นสามารถทำได้ทั้งผิวกายและผิวหน้า แต่ต้องดูที่วัตถุดิบและประเภทของการสครับด้วยนะคะ ว่าเหมาะสมกับผิวส่วนไหน
ประเภทของเนื้อสครับ
เนื้อสครับมีอยู่ 2 ประเภทหลักๆค่ะ แบ่งตามที่มาของตัวสครับ เราสามารถเลือกใช้ตามความชอบและเลือกสครับที่เหมาะกับผิวของเรา ต้องเลือกว่าสครับแบบไหนเหมาะกับผิวส่วนไหนด้วยนะคะ ไม่ว่าจะเป็นผิวหน้าหรือผิวกาย
สครับผิวแบบสังเคราะห์
สครับผิวแบบสังเคราะห์หรือสครับผิวที่เป็นเคมีภัณฑ์ เม็ดบีดที่ใช้เป็นตัวสครับส่วนใหญ่จะทำมาจากพลาสติกหรือพลาสติกเคลือบ ถึงแม้ว่าแบบเม็ดพลาสติก จะหาซื้อง่าย ราคาถูก สามารถใช้งานได้ทันที โดยไม่ต้องนำวัตถุดิบมาผสมให้ได้สัดส่วน แต่การใช้สครับจากกระบวนการทางเคมีก็มีโอกาสที่จะก่อให้เกิดการระคายเคืองต่อผิวได้มากกว่าสครับจากธรรมชาติค่ะ
สครับผิวจากธรรมชาติ
สครับที่มาจากธรรมชาติจะเป็นที่นิยมมากกว่าค่ะ เพราะสครับจากธรรมชาติมีขนาดเล็กใหญ่ต่างกัน ไม่สามารถกำหนดเนื้อสครับให้มีขนาดเท่ากันเหมือนเนื้อสครับเคมีได้ เลยสามารถขัดเซลล์ผิวและสิ่งสกปรกได้ทั่วถึงมากกว่า สครับจากธรรมชาติที่นิยมมีอยู่มากมายเลยค่ะ ไม่ว่าจะเป็น เกลือ น้ำตาล กาแฟ สมุนไพร ชาเขียว ชาโคล กากธัญพืช และอื่นๆอีกมากมาย ซึ่งสามารถนำมาผสมตามสูตรต่างๆได้เองอีกด้วย
เทคนิควิธีสครับผิว สครับผิวยังไงให้ปัง!
ทำความสะอาดผิวหน้าหรือผิวกายให้พร้อม
ก่อนทำการสครับผิวเราควรทำความสะอาดผิวโดยการอาบน้ำหรือล้างหน้าก่อนค่ะ เพราะถึงแม้ว่าการสครับผิวจะเป็นการช่วยขจัดสิ่งสกปรก แต่การทำความสะอาดผิวก่อนโดยการใช้ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดที่เหมาะกับประเภทผิวของเราก็จะสามารถช่วยเตรียมผิวของเราได้ดีกว่าค่ะ สำหรับการทำความสะอาดผิวหน้า พี่รัศมีแนะนำให้ใช้วิธี Double Cleansing เพื่อประสิทธิภาพในการทำความสะอาดที่ดีที่สุดนะคะ
สครับผิวกายอย่างเบามือ
สำหรับการสครับผิวกาย พี่รัศมีแนะนำให้ใช้อุปกรณ์ที่อ่อนโยนต่อผิวเพื่อลดการขัดถูผิวที่แรงเกินไปค่ะ สามารถใช้ฟองน้ำ ใยบวบ หรือใยขัดตัว มาใช้ในการสครับ โดยทำการขัดอย่างเบามือไม่ต้องถูแรงมาก ขัดวนในบริเวณที่เราต้องการเน้นโดยเฉพาะ ไม่ว่าจะเป็น ผิวบริเวณข้อศอก หรือเข่าค่ะ
สครับผิวหน้าอย่างอ่อยโยน
สำหรับการสครับผิวหน้า เราควรใช้มือในการสครับเท่านั้นค่ะ เนื่องจากผิวหน้าเป็นผิวที่บอบบางมาก เราจึงต้องสัมผัสผิวอย่างอ่อนโยนและเบามือเพื่อป้องกันการระคายเคืองบนผิวหน้า โดยใช้สครับถูเบาๆบนผิวหน้าและคอ โดยเน้นบริเวณ T-Zone (ผิวที่มัน) และบริเวณแก้ม (ผิวที่แห้ง) ส่วนสำหรับคนที่มีสิว ควรหลีกเลี่ยงการขัดผิวตรงบริเวณที่มีสิวอยู่ด้วยนะคะเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดการระคายเคืองนั่นเองค่ะ
ระยะเวลาในการสครับผิว
ระยะเวลาในการสครับผิวขึ้นอยู่กับประสิทธิภาพของสครับผิวและประเภทผิวของเราค่ะ โดยทั่วไปแล้วระยะเวลาที่แนะนำ สำหรับผิวหน้าสครับผิวแล้วปล่อยไว้ประมาณ 3 – 5 นาที ไม่ควรทิ้งสครับผิวนานเกินไป เพราะอาจทำให้ผิวหน้าเหนียวและแห้งได้ ส่วนการสครับผิวกายจะอยู่ในช่วง 15 – 20 นาที เพื่อให้สครับผิวได้ทำงานและปรับสมดุลระหว่างการผลิตน้ำมันและความชุ่มชื้นบนผิวนั่นเองค่ะ
ล้างสครับออกด้วยน้ำอุ่น
เมื่อสครับผิวเสร็จเรียบร้อยแล้ว ควรล้างสครับผิวออกด้วยน้ำอุ่นแล้วตามด้วยน้ำเย็นค่ะ สามารถใช้สบู่อ่อนหรือเจลล้างหน้าเพื่อเอาสครับผิวออกจากผิวและเพื่อขจัดสิ่งสกปรกที่อาจหลงเหลืออยู่ออกไปได้ค่ะ
เช็ดผิวให้แห้ง ตามด้วยการบำรุงผิว
หลังจากสครับผิวและล้างออกเรียบร้อยแล้ว เช็ดผิวให้แห้ง และใช้ผลิตภัณฑ์ดูแลผิวอื่นๆ เช่น เซรั่ม ครีม หรือโลชั่นได้ตามปกติเพื่อเป็นการเติมชุ่มชื้นให้ผิวทุกครั้งหลังการสครับ ป้องกันผิวแห้งเสียค่ะ พี่รัศมีแนะนำให้ใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของวิตามิน C และ วิตามิน E เพื่อกระตุ้นให้ผิวเกิดการฟื้นฟู ผลัดเปลี่ยนเซลล์ผิวได้เร็ว และช่วยเพิ่มความกระจ่างใสได้ดีมากยิ่งขึ้นนั่นเองค่ะ
ควรสครับผิวบ่อยแค่ไหน
การสครับผิวหน้าและผิวกายควรปฏิบัติอย่างระมัดระวังและไม่ควรทำบ่อยเกินไป เนื่องจากอาจทำให้เกิดการระคายเคืองและอาจทำให้ผิวแห้งได้ค่ะ เพื่อความปลอดภัยและผลลัพธ์ที่ดี เมื่อทำการสครับผิวอย่างเหมาะสมเราก็จะได้ผิวที่ดูดีและมีสุขภาพดี อย่าลืมดูแลผิวโดยใช้ผลิตภัณฑ์ที่เหมาะสมและรักษาระยะเวลาในการสครับผิวอย่างเหมาะสมด้วยนะคะ โดยความถี่ในการสครับผิวที่เหมาะสมนั้น พี่รัศมีได้แบ่งตามประเภทผิวดังนี้ค่ะ
ควรสครับผิวหน้าบ่อยแค่ไหน?
ผิวมัน
สำหรับคนที่มีผิวมันควรสครับผิวหน้าประมาณ 1-2 ครั้งต่อสัปดาห์ค่ะ ผิวมันมีปริมาณของน้ำมันที่มากกว่าผิวปกติ จึงควรสครับบ่อยขึ้นเพื่อช่วยควบคุมความมันบนผิวนั่นเองค่ะ
ผิวแห้ง
สำหรับผิวแห้งควรสครับผิวหน้าประมาณ 1 ครั้งต่อสัปดาห์ก็เพียงพอแล้วค่ะ เพราะผิวแห้งมีความชุ่มชื้นน้อยการสครับบ่อยเกินไปจึงอาจทำให้ผิวหน้ามีความแห้งมากขึ้นหรือเกิดการระคายเคืองค่ะ
ผิวผสม
สำหรับคนที่มีผิวผสมควรสครับผิวหน้าประมาณ 1-2 ครั้งต่อสัปดาห์ โดยให้ความสำคัญกับการปรับสมดุลระหว่างพื้นที่ผิวที่มันและแห้งนั่นเองค่ะ โดยสามารถเน้นการสครับไปที่บริเวณ T-Zone เพื่อปรับสมดุลความมันด้วยค่ะ
ผิวแพ้ง่าย
ใครที่มีสภาพผิวแพ้ง่ายหรือเกิดการระคายเคืองง่าย พี่รัศมีแนะนำให้สครับผิวอาทิตย์ละครั้งก็เพียงพอแล้วค่ะ แต่อย่างไรก็ตามหากเกิดการระคายเคืองให้หยุดทำการสครับทันทีค่ะ
ควรสครับผิวกายบ่อยแค่ไหน?
ในส่วนของผิวกายเอง ถึงแม้ว่าจะไม่บอบบางเท่าผิวหน้า แต่เราก็ไม่ควรสครับบ่อยเกินไปเช่นกันค่ะ การสครับบ่อยๆไม่ได้ทำให้ผิวเราสุขภาพดีขึ้นนะคะ การสครับบ่อยเกินไปอาจทำให้ผิวกายแห้งและเสียสภาพได้ เพราะฉะนั้นรัศมีแนะนำให้ทำการสครับผิวแค่ประมาณ 1-2 ครั้งต่อสัปดาห์ก็เพียงพอแล้วค่ะ
ข้อควรระวังในการสครับผิว
อย่าสครับบ่อยเกินไป
การสครับผิวบ่อยเกินไปอาจทำให้ผิวแห้งและไร้ความชุ่มชื้นได้ค่ะ ควรประมาณเวลาในการสครับให้เหมาะสมและไม่ควรทำบ่อยเกินไป เพื่อป้องกันการทำลายความสมดุลของผิวค่ะ
หลีกเลี่ยงการสครับผิวบริเวณที่บอบบาง
ควรหลีกเลี่ยงการสครับบริเวณที่ผิวบอบบาง เช่น รอยแผลบาดเจ็บ หรือเนื้อเยื่อผิวที่บอบบาง ผิวแพ้ง่าย ผิวที่เป็นสิวอุดตันและอักเสบ และบริเวณรอบดวงตา เนื่องจากบริเวณรอบดวงตามีผิวบอบบางและอ่อนโยน อาจทำให้เกิดระคายเคืองหรือเกิดความเจ็บปวดได้
ใช้ผลิตภัณฑ์ที่เหมาะสม
ควรใช้สครับผิวที่เหมาะสมสำหรับประเภทผิวของเราโดยเฉพาะค่ะ และควรใช้สครับให้ถูกประเภท ถ้าเป็นผลิตภัณฑ์ที่ระบุว่าเป็นสครับสำหรับผิวกาย ก็ไม่ควรนำมาใช้กับผิวหน้าค่ะ เพราะความเข้มข้นและส่วนผสมอาจแตกต่างกัน หากเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่ไม่เหมาะสมอาจทำให้เกิดอาการแพ้หรือเกิดการระคายเคืองได้นั่นเองค่ะ
ไม่ใช้สครับผิวก่อนออกแดด
หลีกเลี่ยงการสครับผิวก่อนออกแดดนานๆหรือในช่วงเวลาที่แดดแรงค่ะ เพราะอาจเกิดการระคายเคืองได้ แนะนำให้สครับผิวในตอนกลางคืนจะดีที่สุดค่ะ หากมีความจำเป็นที่จะต้องออกไปเจอกับแสงแดดหลังการสครับก็อย่าลืมทาครีมกันแดดกันด้วยนะคะ พี่รัศมีเองก็เคยเขียนบทความแนะนำครีมกันแดดกายและหน้าไว้ด้วยนะคะ สามารถเข้าไปอ่านได้ที่บทความ 8 ครีมกันแดดทาหน้ายี่ห้อไหนดี และบทความ 10 ครีมกันแดดทาตัว ช่วยบำรุงผิว ไม่กลัวแดด ได้เลยค่ะ
สรุปบทความ แชร์เทคนิค! วิธีสครับผิว ใช้ยังไง ควรสครับผิวบ่อยแค่ไหน?
เป็นยังไงกันบ้างคะกับเทคนิควิธีสครับผิวที่พี่รัศมีนำมาแนะนำให้ทุกคนในบทความนี้ หวังว่าเกร็ดความรู้ ข้อมูลเกี่ยวกับการสครับผิว และข้อควรระวังเกี่ยวกับการสครับของพี่รัศมีจะทำให้เพื่อนๆ รู้เทคนิคในการสครับผิวได้อย่างเหมาะสมกับผิวของตัวเองนะคะ การเลือกใช้วิธีและเวลาในการสครับผิวตามสภาพผิวนั้นเป็นสิ่งที่สำคัญมากๆเลยล่ะค่ะ เมื่อทำตามวิธีการสครับที่เหมาะสมแล้ว การมีผิวสวยเปล่งปลั่งสุขภาพดีก็อยู่ไม่ไกลเกินเอื้อมแน่นอนค่ะ สำหรับบทความนี้รัศมีขอตัวไปสครับผิวก่อนนะคะ ไว้เจอกันบทความหน้าค่าาา
คำถามที่พบบ่อย
สครับผิวบ่อยๆดีไหม?
การสครับผิวบ่อยๆไม่ได้แปลว่าดีเสมอไปค่ะ เพราะถ้าหากเราสครับผิวบ่อยมากเกินไปอาจทำให้ผิวเกิดการระคายเคืองและผิวแห้งได้ เราควรสครับผิวประมาณ 1-2 ครั้งต่ออาทิตย์ขึ้นอยู่กับประเภทผิวของแต่ละคนค่ะ
สครับผิวช่วยทำให้รอยแผลเป็นจางลงหรือไม่?
ขึ้นอยู่กับสภาพผิวและรอยแผลเดิมค่ะ สครับผิวอาจช่วยลดความเข้มข้นของรอยแผลเดิมที่เกิดจากสิวหรือการบาดเจ็บ แต่อาจจะไม่สามารถกำจัดรอยแผลทั้งหมดได้ และอาจไม่มีผลในการลดรอยแผลเส้นเลือดแดงเพราะรอยแผลเส้นเลือดแดงจะต้องใช้เทคนิคการรักษาอื่น เช่น เลเซอร์ แต่อาจช่วยลดความเข้มข้นของรอยแผลเป็นสีน้ำตาล เช่น จุดด่างดำได้ แต่อาจต้องใช้เวลานานในการเห็นผลเล็กน้อย และอาจช่วยในการลดความหยาบของผิวในรอยแผลได้บ้างค่ะ
สำหรับคนที่มีผิวแพ้ง่ายใช้สครับผิวได้หรือไม่?
การใช้สครับผิวสำหรับคนที่มีผิวแพ้ง่ายต้องใช้ความระมัดระวังเป็นพิเศษค่ะ เนื่องจากสครับผิวอาจทำให้ผิวมีความไวต่อการระคายเคืองและแพ้ง่ายมากขึ้นได้ ควรปรึกษาแพทย์หรือผู้เชี่ยวชาญหรือทดสอบผลิตภัณฑ์ก่อนใช้งาน เลือกผลิตภัณฑ์ที่อ่อนโยนและปลอดภัยสำหรับผิวแพ้ง่ายและมีการควบคุมความเข้มข้นด้วยค่ะ ในการสครับผิวสำหรับผิวแพ้ง่ายเป็นเรื่องที่ต้องใช้ความระมัดระวังอย่างมาก ควรปฏิบัติตามคำแนะนำและปรึกษาผู้เชี่ยวชาญเพื่อความปลอดภัยและผลลัพธ์ที่ดีนะคะ