- ปรับปรุงล่าสุด 07/04/2023
ทุกวันนี้ทั้งแสงแดด มลพิษ รวมถึงการไม่มีเวลาดูแลตัวเองเนี่ย ทำให้ผิวหน้าเราหมองคล้ำหรือโทรมได้ง่ายๆเลยล่ะค่ะ ในบทความนี้รัศมีเลยอยากจะมาแบ่งปัน 7 สูตรมาส์กหน้าเกาหลี ให้ผิวหน้ากระจ่างใส ดูสุขภาพดี ที่สามารถทำได้ง่ายๆที่บ้านจากวัตถุดิบธรรมชาติ ราคาสบายกระเป๋า สูตรไหนเหมาะกับสภาพผิวแบบไหน ควรมาส์กหน้าบ่อยแค่ไหนถึงจะดี ข้อควรระวังในการมาส์กหน้ามีอะไรบ้าง รัศมีรวบรวมไว้ให้ในบทความนี้แล้วค่ะ ถ้าพร้อมแล้วเรามาเริ่มกันเลยยย
การมาส์กหน้า ดียังไง?
ก่อนอื่นเรามาทำความเข้าใจเกี่ยวกับการมาส์กหน้ากันก่อนนะคะ ใบหน้าเราที่เผชิญทั้งมลพิษ และแสงแดดตัวร้ายระหว่างวัน สามารถทำให้หน้าเราคล้ำเสียได้ง่ายมาก การมาส์กหน้าถือเป็น 1 ในขั้นตอนของการดูแลบำรุงผิวหน้าและยังเป็นตัวช่วยชั้นดีในการเพิ่มประสิทธิภาพในการบำรุงผิวหน้าให้ได้ผลลัพธ์ที่เราต้องการ ซึ่งมาส์กหน้าก็มีมากมายหลายสูตรตามปัญหาผิวหน้าที่ต้องการแก้ไขหรือการดูแลผิวหน้าในด้านต่างๆ มีทั้งแบบแผ่นมาส์กหน้า แบบมาส์กค้างคืน หรือจะทำมาส์กหน้าใช้เองตามสูตรที่รัศมีรวบรวมมาให้ทุกคนในบทความนี้ก็ได้เช่นกันค่ะ ก่อนอื่นเรามาดูวัตถุดิบจากธรรมชาติที่นิยมมาใช้ทำมาส์กหน้าแบบทำเองที่บ้านกันก่อนนะคะ
วัตถุดิบธรรมชาติที่นิยมใช้ในมาส์กหน้าแบบทำเอง
มะขามเปียก
มะขามเปียกมีประโยชน์หลายอย่างต่อผิวหน้าในสกินแคร์ เช่น บำรุงผิวหน้าให้กระจ่างใสและอ่อนเยาว์ด้วยวิตามินซี ลดการอักเสบและแสดงผลลดระคายเคืองผิว ลดริ้วรอยและอาการผิวแพ้ง่าย ควบคุมความมันบนผิวหน้า และสมดุลความเป็นกรดเบสของผิว
น้ำผึ้ง
น้ำผึ้งช่วยป้องกันผิวหน้าของเราจากเชื้อรา แบคทีเรีย ลดอาการอักเสบ บำรุงผิวพรรณให้เปล่งปลั่ง ควบคุมความมัน และยังสามารถต่อต้านอนุมูลอิสระได้อีกด้วย โดยน้ำผึ้งเป็นสารธรรมชาติที่ช่วยดูแลให้ผิวกระจ่างใสสุขภาพดี และผิวแข็งแรงมากขึ้นค่ะ
มะเขือเทศ
มะเขือเทศมีสารต้านอนุมูลอิสระที่ช่วยลดอาการอักเสบและริ้วรอยบนผิวหน้า มีวิตามินซีและวิตามินเอที่ช่วยบำรุงผิวหน้าให้เนียนนุ่ม รักษาความชุ่มชื้น ปรับสมดุลความมันในผิว ลดอาการแห้งกร้าน ปรับสีผิวให้ดูสดใส ลดอาการอักเสบและริ้วรอยจากแสงแดด ช่วยผิวหน้าดูเรียบเนียนและสม่ำเสมอ
มะนาว
มะนาวเป็นสารสกัดธรรมชาติที่ช่วยในการบำรุงผิวหน้าและฟื้นฟูผิวที่เสียหาย ลดการผลิตน้ำมันผิวหน้า ควบคุมความมัน ลดอาการอักเสบและริ้วรอย รวมถึงมีวิตามินซีช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนในผิว ทำให้ผิวหน้าดูอ่อนเยาว์และกระจ่างใสขึ้น มอบสารอาหารให้แก่ผิวหน้าอย่างเต็มที่
โยเกิร์ต
โยเกิร์ตนอกจากจะช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิวหน้าแล้ว ยังช่วยเพิ่มความกระจ่างใสแก่ใบหน้า กระตุ้นการสร้างคอลลาเจนในผิว ปรับสภาพผิวที่อักเสบ ลดรอยแดง ปรับสมดุลความมันในผิวได้ดีอีกด้วยค่ะ
ว่านหางจระเข้
ว่านหางจระเข้มีสารต้านอนุมูลอิสระที่ช่วยลดการอักเสบบนผิวหน้า ลดริ้วรอยและจุดด่างดำที่เกิดจากสภาวะเสื่อมสภาพของผิว ช่วยควบคุมความมัน ลดการอุดตันของตุ่มสิว รักษาความชุ่มชื้น เพิ่มความยืดหยุ่นของผิวหน้า และยังช่วยในเรื่องของกระบวนการผลิตออกซิเจนให้แก่ผิวหน้า ช่วยให้ผิวหน้าดูสดใสและสุขภาพดี
ขมิ้น
ขมิ้นมีสารต้านอนุมูลอิสระ ช่วยต้านการอักเสบ ต้านเชื้อราและแบคทีเรีย ลดอาการอักเสบบนผิวหน้า ช่วยให้ผิวดูเนียนนุ่ม ชุ่มชื่น และมีความกระจ่างใส ลดการอุดตันของต่อมน้ำมันในผิวหน้า และยังสามารถสามารถกระตุ้นการเจริญเติบโตของเซลล์ผิว ช่วยให้ผิวหน้าดูสดใสและอ่อนเยาว์ยิ่งขึ้น
ไข่ขาว
ไข่ขาวมีโปรตีนที่ช่วยในการบำรุงผิวหน้า ช่วยให้ผิวดูเนียนนุ่ม กระชับ และมีความยืดหยุ่น ฟื้นฟูผิวที่เสียหาย ซ่อมแซมเซลล์ผิวหน้าและลดริ้วรอย กระตุ้นการผลิตออกซิเจนให้ผิวหน้า ลดริ้วรอยและผลัดเซลล์ผิวเก่าที่เสื่อมสภาพ ช่วยควบคุมความมันในผิวหน้า บรรเทาอาการผิวแดง อักเสบ และอาการแพ้
รวม 7 สูตรมาส์กหน้าเกาหลี หน้าใส ทำเองได้ง่ายๆ ที่บ้าน
มาส์กหน้าสูตรผิวเนียนนุ่ม: มะขามเปียก + น้ำผึ้ง
สูตรนี้เหมาะสำหรับคนที่ต้องการคืนความกระจ่างใสให้แก่ใบหน้า เนียนนุ่ม ชุ่มชื่น และสำหรับคนที่มีสิวอักเสบ สูตรมาส์กหน้าตัวนี้ก็จะช่วยลดอาการอักเสบของสิวได้ด้วยค่ะ
วิธีทำ
1. ใช้มะขามเปียกมาคั้นเอาน้ำ
2. นำน้ำผึ้งมาผสมกับน้ำมะขามเปียกที่ได้
3. มาส์กหน้าไว้ 30 นาที -1 ชั่วโมง แล้วล้างออกด้วยน้ำสะอาด
ผลลัพธ์หลังการมาส์กหน้า:
ผิวหน้าชุ่มชื้น กระจ่างใส ลดการอักเสบของสิว และปรับให้ผิวแข็งแรงมากขึ้น
มาส์กหน้าสูตรผิวกระจ่างใส: มะเขือเทศ + น้ำผึ้ง
สูตรนี้เหมาะสำหรับคนที่ต้องการแก้ปัญหาผิวหมองคล้ำให้กลับมากระจ่างใส แก้มอมชมพูเหมือนลูกมะเขือเทศ และยังช่วยในเรื่องของสิว รวมถึงการปรับสมดุลความมันได้ด้วยค่ะ
วิธีทำ
1. นำมะเขือเทศบดให้ละเอียด
2. นำน้ำผึ้งมาผสมกับมะเขือเทศที่เราบดไว้ให้เข้ากัน
3. มาส์กหน้าทิ้งไว้ 10-15 นาทีแล้วล้างออกด้วยน้ำสะอาด
มาส์กหน้าสูตรลดมัน ลดสิว: มะนาว + โยเกิร์ต
สูตรนี้เหมาะสำหรับสาวๆที่ต้องการลดความมันบนใบหน้า ลดปัญหาสิวกวนใจ และสูตรนี้ยังช่วยในเรื่องของผิวหน้ากระจ่างใส ชุ่มชื้นได้ด้วยล่ะค่ะ
วิธีทำ
1. โยเกิร์ตรสธรรมชาติ 2-3 ช้อนโต๊ะ
2. ผสมกับน้ำมะนาว 1-2 ช้อนชา แล้วผสมให้เข้ากัน
3. มาส์กหน้าทิ้งไว้ 10-15 นาทีแล้วล้างออกดวยน้ำสะอาด
มาส์กหน้าสูตรกระชับรูขุมขน: ไข่ขาว + โยเกิร์ตรสธรรมชาติ
สูตรนี้เหมาะสำหรับคนที่ต้องการกระชับรูขุมขน ลดสิว ให้ผิวเนียนสวย เด้งกระชับ
วิธีทำ
1. แยกไข่แดงออกจากไข่ขาว
2. นำไข่ขาวมาผสมกับโยเกิร์ตรสธรรมชาติ 1 ช้อนโต๊ะ
3. มาส์กหน้าไว้ประมาณ 15 นาที รอจนแห้ง แล้วล้างออกด้วยน้ำสะอาด
มาส์กหน้าสูตรปลอบประโลมผิว: ว่านหางจระเข้
สูตรนี้เหมาะสำหรับคนที่ต้องการคุมมัน ลดรอยดำ รอยแดงจากสิว ต้องการให้ผิวเนียนนุ่ม ชุ่มชื้น ปลอบประโลมผิวที่เกิดอาการแพ้
วิธีทำ
1. ปลอกเปลือกว่านห่างจระเข้ออกแล้วล้างนำให้สะอาด
2. นำเนื้อมาบดหรือปั่นให้ละเอียด
3. มาส์กหน้าทิ้งไว้ 15-20 นาทีแล้วล้างออกด้วยน้ำสะอาด
** ควรมาส์กหน้าอาทิตย์ละ 2 ครั้งเท่านั้น
มาส์กหน้าสูตรหน้าเด็ก: ขมิ้น
สูตรนี้เหมาะสำหรับสาวๆที่ต้องการชะลอวัย ลดริ้วรอย ผิวพรรณขาวผ่องใส และยังช่วยในเรื่องของสิวอีกด้วยนะคะ
วิธีทำ
1. นำขมิ้นมาล้างให้สะอาดและนำมาบดให้ละเอียด (ใช้แบบผงแทนได้)
2. นำผสมกับน้ำเปล่าสะอาด 1-2 ช้อนชา
3. มาส์กให้ทั่วใบหน้า 10-15 นาทีจนแห้งสนิทแล้วล้างออกด้วยน้ำสะอาด
มาส์กหน้าสูตรผิวขาว: ขมิ้น + มะนาว + น้ำผึ้ง
สูตรนี้เหมาะสำหรับสาวๆที่ต้องการผิวพรรณที่ขาวสวย กระจ่างใส สูตรนี้เค้ายังช่วยในเรื่องของสิว และลดความมันบนใบหน้าได้ด้วยค่ะ
วิธีทำ
1. นำผงขมิ้น ¼ ช้อนชา
2. ผสมกับน้ำมะนาว ½ ช้อนชา
3. ผสมกับน้ำผึ้ง 1 ช้อนโต๊ะ แล้วคนให้เข้ากัน
4. มาส์กหน้าทิ้งไว้ 10-15 นาทีจนมาส์กแห้งสนิทแล้วล้างออกด้วยน้ำอุ่น
วิธีการมาส์กหน้าด้วยสูตรมาส์กหน้าทำเอง
ขั้นตอนการเตรียมผิว
– ทำความสะอาดหน้าให้หมดจด โดยรัศมีแนะนำการทำความสะอาดหน้าด้วยวิธี Double Cleansing ที่จะช่วยขจัดสิ่งสกปรก เครื่องสำอาง และความมันส่วนเกินบนใบหน้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ขั้นตอนการมาส์กหน้า
– นำมาส์กหน้าสูตรที่เราสนใจมาทาที่ท้องแขนก่อน เพื่อเป็นการเช็คให้แน่ใจว่าไม่เกิดอาการแพ้หรือระคายเคือง
– เมื่อพบว่าไม่มีอาการแพ้แล้ว ให้นำมาส์กที่เตรียมไว้ทาลงไปบนหน้าได้เลย โดยเว้นช่วงบริเวณรอบดวงตาและริมฝีปากเนื่องจากเป็นบริเวณที่บอบบาง
– มาส์กหน้าทิ้งไว้ตามเวลาที่กำหนดในแต่ละสูตร
– หลังครบกำหนดเวลาให้ล้างออกด้วยน้ำสะอาดและนำผ้าขนหนูที่สะอาดมาซับหน้า
ขั้นตอนการบำรุงผิวหลังมาส์กหน้า
– ลงสกินแคร์ขั้นต่อไปตามสกินแคร์รูทีนของเราได้เลยค่ะ โดยรัศมีแนะนำให้ลงสกินแคร์ที่มีเนื้อบางเบาก่อน เช่น โทนเนอร์ เอสเซ้นส์ หรือเซรั่ม
พี่รัศมีเองก็มีเอสเซ้นส์เกาหลีตัวเด็ดมาแนะนำด้วยน้าาา เข้าไปอ่านกันได้ที่บทความ รีวิวสกินแคร์เกาหลี ตัวเด็ด Cosrx Snail Mucin Essence ได้เลยค่ะ
เราควรมาส์กหน้าบ่อยแค่ไหน?
ปัญหาโลกแตกสำหรับคำถามที่ว่า เราควรมาส์กหน้าบ่อยเเค่ไหน? มาส์กหน้าได้ทุกวันจริงหรือเปล่า? คำตอบคือ สำหรับสูตรที่เติมความชุ่มชื้นให้แก่ผิว เราสามารถมาส์กหน้าได้ทุกวันเลยค่ะ และไม่ควรมาส์กหน้าเกิน 10-15 นาทีเพราะถ้าเรามาส์กหน้าทิ้งไว้นานเกินไปจะทำให้มาส์กดึงความชุ่มชื้นออกจากผิวเราได้ค่ะ แต่สำหรับมาส์กสูตรอื่นๆ เช่นสูตรทำให้ผิวขาว หรือสูตรผลัดเซลล์ผิว พี่รัศมีแนะนำให้มาส์กหน้าประมาณสัปดาห์ละ 2-3 ครั้ง ก็เพียงพอแล้วค่ะ
สรุปบทความ 7 สูตรมาส์กหน้าเกาหลี หน้าใส ทำเองได้ง่ายๆ ที่บ้าน
สำหรับสาวๆที่ต้องการดูแลตัวเองด้วยวิธีง่ายๆที่บ้าน การมาส์กหน้าถือเป็นอีกวิธีที่สาวเกาหลีเค้านิยมใช้กันในการบำรุงดูแลรักษาผิวพรรณให้สวย กระจ่างใส มีออร่าอยู่เสมอเลยค่ะ ซึ่งสูตรมาส์กหน้าที่รัศมีนำเสนอในบทความนี้ก็จะเน้นไปที่การบำรุงหน้าในด้านที่แตกต่างกันไป ใครอยากบำรุงหน้าด้านไหนก็เลือกได้ตามต้องการเลยนะคะ นอกจากนี้รัศมียังมีบทความทุกเรื่องที่ต้องรู้เกี่ยวกับการมาส์กหน้า มาให้ทุกคนได้ทำความเข้าใจเกี่ยวกับการมาส์กหน้าได้มากขึ้นด้วยค่ะ สำหรับใครที่ไม่มีเวลาทำสูตรมาส์กหน้าเอง ก็สามารถหาซื้อมาส์กหน้าจากแบรนด์ต่างๆมาบำรุงหน้าตามความต้องการของแต่ละคนกันได้เลยน้าา สำหรับบทความนี้รัศมีขอลาไปก่อน เจอกันบทความหน้านะค้าาา
คำถามที่พบบ่อย
เราควรมาส์กหน้าบ่อยแค่ไหน?
สำหรับสูตรมาส์กทำเอง ถ้าเป็นสูตรเพิ่มความชุ่มชื้นสามารถมาส์กได้ทุกวันเลยค่ะ แต่ระวังไม่ควรมาส์กทิ้งไว้เกิน 15 นาทีนะคะ สำหรับสูตรที่เพิ่มความกระจ่างใสและสูตรผลัดเซลล์ผิว ควรมาส์กหน้าสัปดาห์ละ 2-3 ครั้งก็เพียงพอแล้วค่ะ
สูตรมาส์กหน้าทำเองสามารถทำให้เกิดการแพ้ได้ไหม?
ขึ้นอยู่กับแต่ละสภาพผิวค่ะ โดยวิธีตรวจสอบการแพ้ก็คือ ให้นำสูตรมาส์กที่เราทำมาทดลองป้ายที่ท้องแขนแล้วสังเกตอาการดูค่ะ ถ้าไม่เกิดการระคายเคืองก็สามารถใช้ได้เลยค่าาา
ต้องมาส์กหน้ากี่ครั้งถึงจะเห็นผล?
เราควรมาส์กอย่างน้อยอาทิตย์ละ 2-3 ครั้งติดต่อกันอย่างสม่ำเสมอเพื่อผลลัพธ์ที่ดี ทั้งนี้จะเห็นผลช้าหรือเร็วขึ้นอยู่กับสภาพผิวของแต่ละบุคคลอีกทีค่ะ