- ปรับปรุงล่าสุด 21/11/2023
ครีมบำรุงผิว เซรั่ม หรือแม้กระทั้งโฟมล้างหน้ายี่ห้อดังต่างๆ ก็มีส่วนผสมของสารผลัดเซลล์ผิวอย่าง AHA BHA และ PHA กันทั้งนั้น มีแต่คนรีวิวว่าดีอย่างนู้นดีอย่างงี้เต็มไปหมด แต่ยังรู้สึกไม่มันใจที่จะนำมาใช้ ไม่รู้ว่าจะดีจริงอย่างที่เขารีวิวกันมั้ย มีเรื่องสงสัยไม่เข้าใจอยู่เต็มไปหมด ไม่รู้จะเริ่มศึกษายังไง ทุกคนไม่ต้องกังวลไปนะคะ! ในบทความนี้พี่รัศมีจะพาไปทำความรู้จักกับเจ้าสาว 3 ตัวอักษรเหล่านี้ให้มากขึ้นแบบที่เข้าใจได้ง่ายๆ ไขข้อสงสัยให้หมด พร้อมเผยให้เห็นถึงคุณสมบัติและประโยชน์ที่เราจะได้ว่ามีอะไรบ้าง ถ้าพร้อมแล้วไปดูกันค่ะ
AHA BHA และ PHA คืออะไร?
AHA BHA และ PHA เป็นสารผลัดเซลล์ผิวที่ใช้เป็นส่วนผสมในสกินแคร์ เพื่อการดูแลและบำรุงสภาพผิวหน้าค่ะ โดยการผลัดเซลล์ผิวจะมีอยู่ 2 ประเภท คือการผลัดเซลล์ผิวแบบกายภาพโดยการขัดผิว และการผลัดเซลล์ผิวแบบเคมีโดยการใช้สารผลัดเซลล์ผิวจำพวก AHA BHA และ PHA นั่นเอง ซึ่งสารเหล่านี้จะเป็นตัวช่วยในกระบวนการผลัดเซลล์ผิวของเรา เผยผิวเนียนใส สุขภาพดีมากขึ้นนั่นเองค่ะ เรามาดูกันดีกว่าค่ะว่าแต่ละตัวเค้าคืออะไรบ้าง
AHA
AHA ย่อมาจากคำว่า “Alpha Hyroxy Acid” เป็นสารผลัดเซลล์ผิวจากผลไม้ เช่น กรดซิตริกจากมะนาว ส้ม กรดมัลลิกจากแอปเปิ้ล กรดแล๊กติกจากนมเปรี้ยว เป็นต้น AHA จะเป็นสารที่ละลายได้ในน้ำ และเข้าไปทำปฏิกิริยาบริเวณผิวชั้นนอก เหมาะกับผิวแห้งไปจนถึงผิวธรรมดา ส่วนคุณสมบัติหลักๆ ของ AHA ก็คือ ช่วยผลัดเซลล์ผิวเก่า เผยผิวที่ขาวกระจ่างใสขึ้น ด้วยหน้าที่นี้ เลยสามารถช่วยปรับสีผิวที่คล้ำ กระตุ้นเซลล์ผิวใหม่เพิ่มขึ้น ปรับผิวสีที่ไม่สม่ำเสมอให้ขาวกระจ่างใสขึ้น และยังช่วยในเรื่องของริ้วรอยได้อีกด้วยค่ะ
BHA
BHA ย่อมาจากคำว่า “Beta Hydroxy Acid” กรด BHA ที่รู้จักกันอย่างกว้างขวางก็คือ ซาลิไซลิก (Salicylic Acid) ค่ะ ซึ่ง BHA มีความแตกต่างจาก AHA ตรงที่ว่ามันเป็นสารที่ละลายในไขมัน สามารถละลายไขมันที่อยู่ในชั้นผิวได้ค่ะ นั่นหมายความว่า มันสามารถซึมเข้าสู่รูขุมขนไปถึงต่อมไขมัน ทำความสะอาดรูขุมขนได้ล้ำลึก ช่วยในการทำความสะอาดผิวและลดปัญหาสิวอุดตัน เหมาะกับคนผิวมันและผิวที่มีปัญหาเรื่องสิวอุดตันหรือรูขุมขนใหญ่มากค่ะ
PHA
PHA ย่อมาจากคำว่า “Poly Hydroxy Acid” เป็นสารผลัดเซลล์ผิวที่มีฤทธิ์เป็นกรดอ่อน ๆ มีคุณสมบัติในการช่วยผลัดเซลล์ผิวคล้ายๆกับ AHA แต่มีความอ่อนโยนต่อผิวมากกว่า เพราะ PHA มีขนาดโมเลกุลใหญ่และมีจำนวนหมู่ไฮดรอกซี่มากกว่า จึงไม่สามารถแทรกซึมลงสู่ผิวชั้นผิวได้ดีเท่ากับ AHA ค่ะ แต่จะออกฤทธิ์ที่บริเวณผิวชั้นนอกเป็นหลักโดยไม่รบกวนชั้นผิวที่ลึกลง ทำให้ประสิทธิภาพในการผลัดเซลล์ผิวอาจจะไม่ได้ดีเท่า AHA แต่ข้อดีของ PHA คือก่อความระคายเคืองได้น้อยกว่า จึงเหมาะสำหรับสาวๆ ที่มีผิวบอบบางแพ้ง่ายนั่นเองค่ะ
ประโยชน์ของ AHA BHA และ PHA สำหรับดูแลผิว
ประโยชน์ของ AHA (Alpha Hydroxy Acid)
1. ช่วยเร่งการผลัดเซลล์ผิว เผยผิวใหม่สุขภาพดี
AHA เป็นกรดที่มีความสามารถในการเร่งกระบวนการผลัดเซลล์ผิวนั้นเอง ด้วยการกระตุ้นเซลล์ผิวเก่าให้สลายตัวออกไป เพื่อทำการสร้างเซลล์ผิวใหม่ขึ้นมาทดแทนที่ ผลที่ได้คือผิวหน้าของเราจะดูกระจ่างใสและสดชื่นมากขึ้นค่ะ ทำให้ผิวดูอ่อนเยาว์และมีความเรียบเนียนขึ้น การนำ AHA เข้ามาใช้ในการดูแลผิวหน้าจึงเป็นทางเลือกที่ดีในการส่งเสริมการเร่งผลัดเซลล์ผิวอย่างมีประสิทธิภาพค่ะ
2.ลดเลือนริ้วรอยและจุดด่างดำ
AHA มีคุณสมบัติที่สามารถช่วยในเรื่องของการลดริ้วรอยและลดเลือนจุดด่างดำบนผิวหน้าค่ะ กรด AHA ช่วยกระตุ้นกระบวนการผลัดเซลล์ผิวเก่าออกไปและเปลี่ยนด้วยเซลล์ผิวใหม่ ทำให้ริ้วรอยที่เกิดจากแผลหมดไป รวมถึงช่วยทำให้จุดด่างดำบนผิวหน้าของเราค่อยๆหายไปอย่างแนบเนียน ผลลัพธ์ที่ได้คือผิวหน้าดูเรียบเนียน กระจ่างใส และมีความเปล่งประกายมากขึ้นค่ะ
3.เติมความชุ่มชื้นให้ผิวอิ่มน้ำ
AHA เป็นกรดที่สามารถช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับผิวหน้าของเราได้ค่ะ เพราะมีคุณสมบัติในการดึงน้ำมายังผิว ทำให้ผิวหน้าดูอิ่มน้ำและเนียนชุ่มชื่นมากขึ้น การใช้ AHA ในดูแลผิวหน้าช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการบำรุงผิวเติมเต็มความชุ่มชื้น ความอิ่มน้ำของผิว ช่วยให้ผิวดูอ่อนเยาว์และมีความสุขภาพดี ดูกระจ่างใสมากขึ้นด้วยค่ะ
4.ปรับสีผิวให้ดูสม่ำเสมอมากขึ้น
AHA เป็นกรดที่มีความสามารถในการปรับสีผิวหน้าให้มีความสม่ำเสมอและเรียบเนียน เพราะว่ากรด AHA ช่วยกระตุ้นกระบวนการผลัดเซลล์ผิวเก่าและเปลี่ยนด้วยเซลล์ผิวใหม่ ทำให้ผิวหน้าดูเรียบเนียนและสม่ำเสมอมากขึ้น เหมาะสำหรับผิวที่มีปัญหาเกี่ยวกับการไม่สม่ำเสมอของสีผิว ดังนั้นแล้วการใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของ AHA จะช่วยปรับสภาพผิวให้มีความเรียบเนียน ลดความไม่สม่ำเสมอของสีผิวได้ดีมากค่ะ
5.กระจายผลิตภัณฑ์ดูแลผิว
AHA เป็นกรดที่มีคุณสมบัติช่วยในการกระจายสารบางส่วนในผลิตภัณฑ์ดูแลผิว ทำให้ครีมบำรุงผิวหน้าและผลิตภัณฑ์อื่นๆ ที่ใช้ร่วมกันมีประสิทธิภาพมากขึ้น มีการซึมซับเนื้อครีมบำรุงผิวได้ล้ำลึกมากขึ้น เพิ่มความสมบูรณ์ให้กับสภาพผิว ทำให้ผิวหน้าดูเรียบเนียน มีความสดชื่น และผิวดูมีสุขภาพที่ดีนั้นเองค่ะ
ประโยชน์ของ BHA (Beta Hydroxy Acid)
1.ช่วยเร่งการผลัดเซลล์ผิว
BHA เป็นสารที่มีคุณสมบัติที่สำคัญในการดูแลผิวหน้า และมีบทบาทในการกระตุ้นกระบวนการผลัดเซลล์ผิว กระบวนการผลัดเซลล์ผิวเป็นกระบวนการที่สำคัญในการบำรุงผิวหน้าที่ทำให้ผิวหน้าของเราดีขึ้นในหลายๆด้าน ไม่ว่าจะเป็นการทำให้ผิวหน้าเราเด้งดั่งเดิม ดูกระจ่างใส ดูเรียบเนียนและช่วยลดการอุดตันของโพรงหลอดน้ำมันใต้ผิวหน้าด้วยค่ะ
2.ช่วยลดการอักเสบบนผิวหน้า
BHA เป็นกรดที่มีคุณสมบัติที่มีผลต่อการดูแลผิวหน้าของเราในการลดการอักเสบบนผิวหน้า สามารถช่วยลดการอักเสบบนผิวหน้าได้เพราะ BHA มีโครงสร้างที่ช่วยในกระบวนการละลายสารสกัดน้ำมันและสารสกัดเซลล์ผิวที่เสียหาย ทำให้ต่อมไขมันไม่อุดตันและลดการอักเสบบนผิวหน้า ทำให้ใบหน้าของเราสะอาด ดูกระจ่างใส ทำให้ผิวดูเรียบเนียน และลดความมันบนผิวหน้าอย่างอีกด้วยค่ะ
3.ช่วยขจัดสิ่งสกปรกและสิวอุดตัน
BHA เป็นกรดที่มีคุณสมบัติที่มีผลต่อการดูแลผิวหน้าของเราในการลดการเกิดสิวและขจัดสิวอุดตันบนผิวหน้าค่ะ เพราะกรด BHA มีคุณสมบัติที่ช่วยในกระบวนการละลายสารและเซลล์ผิวเก่าหรือเซลล์ผิวที่ตายแล้วที่ทำให้เกิดสิวอุดตัน การละลายนี้ทำให้ไม่มีการสะสมของเสียบนผิวหน้า จึงสามารถขจัดสิวออกได้อย่างง่ายดาย ผิวหน้าดูสะอาดมากขึ้นค่ะ
4.ปรับสมดุลความมันของผิว
BHA เป็นกรดที่มีประโยชน์ที่น่าสนใจ คือสามารถปรับสภาพผิวที่มีความมันมากเกินไป เพราะมีคุณสมบัติในการละลายความมัน ปรับสภาพผิวหน้าของเราให้มีความสมดุลได้ค่ะ ทำให้มีการควบคุมความมันและลดความมันบนผิวที่เห็นได้ชัดเจน ผิวหน้าของเราจะดูดีขึ้น ดูกระจ่างใส ปราศจากความมัน BHA จึงเหมาะสำหรับผิวที่มีปัญหาเกี่ยวกับความมันมากนั้นเองค่ะ .
5.ช่วยลดรอยแดงจากสิว
BHA เป็นกรดที่มีคุณสมบัติในการบรรเทาและลดรอยแดงจากการสิวบนผิวหน้าค่ะ กรด BHA มีคุณสมบัติในการช่วยละลายสารสกัดและคอลลาเจนที่ทำให้เกิดการอักเสบและรอยแดง ทำให้รอยแดงที่เกิดจากการสิวบนผิวหน้าของเราบรรเทาลงและดูดีขึ้น BHA ยังช่วยในกระบวนการผลัดเซลล์ผิวและลดการอักเสบบนผิวหน้า โอกาสการเกิดรอยแดงจากสิวก็น้อยลง ทำให้ผิวดูเรียบเนียนและสม่ำเสมอมากขึ้นค่ะ
ประโยชน์ของ PHA (Poly Hydroxy Acid)
1.ช่วยเร่งการผลัดเซลล์ผิว
PHA เป็นกรดที่มีคุณสมบัติที่ดีต่อการดูแลผิวหน้า สามารถช่วยเร่งการผลัดเซลล์ผิวได้ดีค่ะ เพราะว่ากรด PHA มีโครงสร้างที่ช่วยกระตุ้นกระบวนการผลัดเซลล์ผิว ทำให้เซลล์ผิวเก่าที่ตายแล้วแทนด้วยเซลล์ผิวใหม่ได้เร็วขึ้น เพิ่มความกระจ่างใสให้กับผิวอย่างสม่ำเสมอ ทำให้ผิวหน้าดูเรียบเนียนและมีความสดชื่นมากขึ้นค่ะ
2.เพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิว
PHA เป็นกรดที่มีประโยชน์ต่อการดูแลผิวหน้ามาก หนึ่งในประโยชน์ที่สำคัญคือความสามารถในการเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับผิวหน้าของเราค่ะ กรด PHA มีโครงสร้างที่ช่วยในกระบวนการรักษาความชุ่มชื้นให้กับผิว มีความสามารถในการดูดน้ำมายังผิว ทำให้ผิวหน้าของเราไม่แห้งกร้าน ดูอิ่มน้ำ นุ่มชุ่มชื้น และดูเรียบเนียนมากขึ้นค่ะ
3.บำรุงผิวอย่างอ่อนโยน
PHA เป็นกรดที่มีผลต่อการดูแลผิวหน้า สามารถช่วยบำรุงผิวอย่างอ่อนโยนได้ค่ะ เพราะกรด PHA มีขนาดโมเลกุลใหญ่และมีจำนวนหมู่ไฮดรอกซี่มาก จึงไม่สามารถแทรกซึมลงสู่ผิวชั้นผิวได้ดีเท่ากับกรดตัวอื่นๆ แต่จะออกฤทธิ์ที่บริเวณผิวชั้นนอกเป็นหลักโดยไม่รบกวนชั้นผิวที่ลึกลง มันจึงบำรุงผิวหน้าของเราด้วยความอ่อนโยนกว่ากรดตัวอื่นๆนั้นเองค่ะ
4.ช่วยลดการอักเสบบนผิวหน้า
PHA เป็นกรดที่สามารถช่วยลดการอักเสบและบรรเทาความรุนแรงของอาการอักเสบบนผิวหน้าค่ะ กรด PHA มีโครงสร้างที่ช่วยในกระบวนการผลัดเซลล์ผิวและละลายเซลล์ผิวที่เสียหาย ทำให้ผิวหน้าของเราสะอาดขึ้นและละลายสิ่งตกค้างที่ทำให้เกิดการอักเสบได้ PHA จึงเหมาะกันคนที่มีปัญหาเกี่ยวกับการอักเสบบนผิวหน้ามากค่ะ
5.ช่วยปรับสภาพผิวให้มีสุขภาพดี
PHA เป็นกรดที่ส่งผลต่อการดูแลผิวหน้าอย่างมีประสิทธิภาพ และสามารถช่วยในกระบวนการปรับสภาพผิว กรด PHA มีโครงสร้างที่ช่วยกระตุ้นกระบวนการผลัดเซลล์ผิวและละลายเซลล์ผิวที่เสียหาย มีผลในการเร่งความเรียบเนียนของผิวอย่างอ่อนโยน ทำให้ผิวหน้าปรับสภาพใหม่ ผิวดูอ่อนเยาว์ ดูเรียบเนียนและกระจ่างใสมากขึ้นค่ะ
ข้อควรระวังเมื่อใช้ AHA BHA และ PHA
การใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนประกอบ AHA BHA และ PHA เพื่อการดูแลผิวพรรณนั้นเป็นเรื่องที่มีความสำคัญและต้องการความระมัดระวังมากค่ะ เพราะว่าผลิตภัณฑ์เหล่านี้มีคุณสมบัติที่มีความเป็นกรดและสามารถส่งผลต่อผิวได้โดยตรง ดังนั้นเราควรรู้ถึงข้อควรระวังที่สำคัญเพื่อให้การใช้งานเป็นไปอย่างปลอดภัย ดังนี้ค่ะ
1.อาจเกิดผื่นแดงและระคายเคือง
กรด AHA BHA และ PHA สามารถกระตุ้นกระบวนการผลัดเซลล์ผิว และช่วยในกระบวนการสะลายเซลล์ผิวเก่าแทนด้วยเซลล์ผิวใหม่ ทำให้ผิวหน้าสดชื่นและเรียบเนียนมากขึ้น แต่บางครั้งอาจเกิดผื่นแดงหรือระคายเคืองบนผิวหน้าเนื่องจากการกระตุ้นระบบภูมิคุ้มกันของผิว แต่ไม่ต้องกังวลนะคะเพราะเป็นธรรมชาติของกระบวนการผลัดเซลล์ผิวค่ะ และการใช้ความเข้มข้นสูงหรือไม่เหมาะสมของผลิตภัณฑ์ AHA BHA และ PHA อาจทำให้ผิวหน้ามีการตอบสนองด้านผิวที่แตกต่างกันได้ค่ะ
2.ควรทดสอบก่อนใช้
การทดสอบก่อนใช่จริงเป็นเรื่องสำคัญมาก ที่ไม่ควรไม่ข้ามเลยค่ะ เพื่อความปลอดภัยต่อผิวของเราเอง ก่อนที่เราจะใช้เริ่มผลิตภัณฑ์ที่ส่วนผสมของ AHA BHA และ PHA ควรทดสอบอาการแพ้ก่อน โดยทดสอบที่ผิวบริเวณที่เล็กๆและเฝ้าดูภายใน 24 ชั่วโมง เพื่อตรวจสอบว่าผิวมีปฏิกิริยาแพ้หรือไม่ค่ะ หากไม่มีอาการแพ้หรือระคายเคือง สามารถใช้ผลิตภัณฑ์ได้ต่อไป
3.ผิวหน้ามีแผลหรือบาดแผล
การใช้ AHA BHA และ PHA เป็นส่วนส่วนผสมในผลิตภัณฑ์ดูแลผิวหน้าควรระมัดระวังโดยเฉพาะเมื่อผิวบนใบหน้าของเรามีแผลหรือบาดแผลเปิดอยู่ เพราะเกรดเหล่านี้มีผลกระทบต่อกระบวนการฟื้นฟูและการรักษาตัวบาดแผลช้าลงหรือรักษาได้ยากขึ้น อาจทำให้ผิวมีความตึงและเจ็บปวดเพิ่มขึ้น ดังนั้นเมื่อมีแผลหรือบาดแผลบนผิวหน้า ควรปฏิบัติตามคำแนะนำของผู้เชี่ยวชาญด้านผิวเพื่อป้องกันความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นค่ะ
4.ผิวหน้าไวต่อแสงแดดมากขึ้น
AHA BHA และ PHA เป็นสารที่ช่วยในการผลัดเซลล์ผิวและช่วยปรับสภาพผิว มันมักทำให้ผิวมีความไวต่อแสงแดดมากขึ้นค่ะ จึงควรระมัดระวังให้มากเรื่องการถูกแสงแดด ควรใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของกรดเหล่านี้ในช่วงกลางคืนค่ะ และต้องมีวิธีการป้องกันแสงแดดอย่างเหมาะสม เช่น การใช้ครีมกันแดดหรือสเปรย์กันแดด ซึมไว สบายผิวที่มี SPF สูงในช่วงเวลากลางวัน เพื่อป้องกันผิวแสบแดงหรือเสียหายจากการโดนแสงแดดค่ะ
5.การใช้ AHA, BHA, และ PHA ร่วมกับผลิตภัณฑ์อื่น
การใช้ AHA BHA และ PHA เพื่อดูแลผิวหน้าหน้าต้องควรระมัดระวังในการใช้ร่วมกับผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมเคมีอื่นๆ เช่น วิตามินซี และ เรตินอลค่ะ เพราะอาจทำให้ผิวหน้าของเราเกิดอาการผิดปกติ เช่น การระคายเคือง ผื่นแดง และผิวแสบแดงนั่นเองค่ะ
สรุปบทความ ไขข้อสงสัย AHA BHA PHA คืออะไร ต่างกันยังไง ช่วยเรื่องไหนบ้าง?
อยากมีผิวหน้าที่สวยงาม กระจ่างใส และอ่อนเยาว์ต้องใช้ AHA BHA และ PHA เลยค่ะ จากคุณสมบัติที่น่าสนใจและประโยชน์ที่เยอะมากในการดูแลผิว ครอบคุมการดูแลผิวในหลายๆด้าน ไม่ว่าจะเป็น ลดสิว ลดความมันบนใบหน้า ลดรอยต่างๆ เพิ่มความชุ่มชื่นให้ผิวหน้า และอื่นๆอีกมากมาย แถมยังเลือกใช้ตามความต้องการ ปัญหาผิวที่กำลังเจออยู่ หรือเลือกให้เหมาะสมกับสภาพผิวของเราเองได้อีกด้วยค่ะ มั่นใจได้เลยนะคะว่าใช้แล้วเห็นผลไม่มีผิดหวังแน่นอน พี่รัศมีอยากให้ทุกคนมีสภาพผิวที่ดีสามารถมั่นใจ และอวดความสวยของผิวเราเองให้คนอื่นเห็นอย่างเต็มที่ อย่าลืมเลือกใช้ AHA BHA และ PHAให้เหมาะสมกับผิวเรานะคะ เจอกันบทความหน้าค่ะ บายยยยย
คำถามที่พบบ่อย
ใช้ AHA BHA และ PHA ได้ทุกวันหรือไม่?
แนะนำให้ใช้ AHA BHA และ PHA เพียง 2-3 ครั้งต่อสัปดาห์ก็เพียงพอแล้วค่ะ โดยผิวแต่ละประเภทก็สามารถใช้ในความถี่ที่แตกต่างกัน สำหรับผิวแพ้ง่ายพี่รัศมีแนะนำให้ใช้ 1-2 ครั้งต่อสัปดาห์จะดีที่สุดค่ะ
ควรใช้ AHA BHA และ PHA ตอนไหนในของวัน?
ควรใช้ AHA BHA และ PHA ในช่วงเวลากลางคืนค่ะ เนื่องจากAHA BHA และ PHA อาจทำให้ผิวมีความไวต่อแสงแดด ควรป้องกันด้วยการใช้ครีมกันแดดที่มีค่า SPF30 ขึ้นไปในช่วงกลางวันค่ะ