- ปรับปรุงล่าสุด 06/14/2023
ฮัลโหลทุกคน!! กำลังมองหาขั้นตอนการดูแลผิวที่ช่วยฟื้นฟูและบำรุงผิวอยู่รึป่าวค่ะ บางทีรูทีนการดูแลผิวหน้าของเราอาจจะไม่ดีพอ หรือบำรุงยังไงหน้าก็ไม่ดีขึ้นซักที พี่รัศมี มีทริคมาฝากค่ะ การดูแลผิววิธีนี้เรียกว่า “Korean Skincare Routine” หรือ “วิธีการดูแลผิวแบบเกาหลี” โดยเค้าจะเน้นในเรื่องของการใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวที่มาจากธรรมชาติ วิธีการทำความสะอาดหน้าที่ถูกต้องและการทำทรีตเมนต์บำรุงผิว เพื่อให้ผิวของเราดูสุขภาพดีและเปล่งปลั่งเป็นธรรมชาติที่สุด ในบทความนี้เราจะพูดถึง ประโยชน์ของวิธีการดูแลผิว ขั้นตอนของการดูแลผิว ส่วนผสมในสกินแคร์ที่เราควรรู้ และทำยังไงให้ผิวเราดูสวยสดใสแบบสาวเกาหลี กันค่ะ
Korean Skincare Routine คืออะไร?
Korean Skincare Routine เป็นวิธีการดูแลผิวที่จะต้องมีความพิถีพิถันในการบำรุงเกราะป้องกันของผิวเรา โดยการใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวจากธรรมชาติตาม วิธีการดูแลผิวแบบเกาหลี 10 ขั้นตอน และทำให้เป็นกิจวัตรประจำวัน ซึ่งขั้นตอนการดูแลผิวแบบสาวเกาหลีนี้ กำลังเป็นเทรนด์อย่างมากในประเทศไทย โดยเฉพาะสาวๆที่อยากมีผิวสวยเหมือนไอดอลเกาหลี และสามารถทำได้เองที่บ้านแบบไม่ง้อคลินิกเสริมความงามเลยค่ะ
จุดเด่นของวิธีการดูแลผิวหน้าแบบ Korean Skincare Routine คือ การดูแลผิวแบบอ่อนโยน เพื่อให้ผลลัพธ์ในระยะยาวและทำเป็นประจำทุกวัน ไม่ใช่การดูแลเพื่อเห็นผลในทันทีหลังใช้ โดยส่วนสำคัญของการดูแลผิวในวิธีนี้จะเป็นการกักเก็บความชุ่มชื้นให้ผิว เพื่อรักษาสมดุลของสภาพผิวและป้องกันสัญญาณแห่งวัย เช่น รอยย่น หรือ ริ้วรอย เมื่อเข้าใจพื้นฐานการดูแลผิวของสาวเกาหลีแล้ว เรามาดูว่าวิธีนี้มีประโยชน์ยังไงกับผิวของเรากัน
ประโยชน์ของ Korean Skincare Routine
หลายคนคงรู้ใช่มั้ยคะว่าผลิตภัณฑ์บำรุงผิว หรือ สกินแคร์ที่เหมาะกับคนไทย คงไม่พ้นสกินแคร์ที่มาจากประเทศเกาหลี โดยลักษณะผิวของเราคือผิวแบบคนเอเชีย ซึ่งอาจจะไม่เหมือนกัน100% เพราะประเทศเกาหลีเค้ามีสภาพอากาศที่หนาวกว่า แต่สกินแคร์ของเค้าก็สามารถให้ผลลัพธ์การบำรุงผิวที่มีประสิทธิภาพเช่นกันค่ะ โดยเค้าเน้นในเรื่องของการช่วยให้ผิวแข็งแรงขึ้น เติมความชุ่มชื้นให้ผิว ช่วยลดเลือนริ้วรอย จุดด่างแห่งวัย และสัญญาณแห่งวัยอื่นๆ
ในวงการของสกินแคร์เกาหลีเค้าได้มีการคิดค้น 10 ขั้นตอนของการดูแลผิว ที่สามารถปรับตามความเหมาะสมของลักษณะผิวของแต่ละคน ที่รวมถึงวิธี Double Cleansing การใช้โทนเนอร์ปรับสมดุลผิวและเอสเซ้นส์เพื่อให้ความชุ่มชื้น การใช้เซรั่ม & แอมเพิล ปิดท้ายด้วยการใช้ มอยส์เจอไรเซอร์ และครีมกันแดด
โดยส่วนผสมหลักของสกินแคร์สำหรับ วิธีการดูแลผิวแบบเกาหลี นั้นจะเน้นไปที่การใช้สารสกัดจากชาเขียว เมือกหอยทาก และ ประโยชน์จากน้ำผึ้ง เป็นส่วนมากเพราะมีสรรพคุณ ที่สามารถแก้ไขปัญหาผิวต่างๆได้ สร้างเกราะป้องกันผิวให้ผิวแข็งแรงขึ้นและช่วยรักษาสมดุลของผิวให้ดูสุขภาพดีค่ะ
หากทุกคนปฏิบัติตามขั้นตอนการดูแลผิวของสาวเกาหลีเป็นประจำ เราก็จะมีผิวที่ดีและเปล่งประกายเหมือนสาวเกาหลีเลยล่ะค่ะ
ช่วยปรับสมดุลความชุ่มชื้นของผิว
ประโยชน์อย่างแรกของ วิธีการดูแลผิวแบบเกาหลี คือ การให้ผิวของเรามีความชุ่มชื้นค่ะ ความชุ่มชื้นเป็นสัญญาณที่ดีของผิวที่มีสุขภาพดีและความอ่อนเยาว์ เมื่อผิวเรามีอาการแห้งกร้าน จะเกิดเป็นปัญหาผิวเหล่านี้ เช่น ความหมองคล้ำ รอยแดง และริ้วรอย สกินแคร์ของเกาหลีจึงใช้คลีนเซอร์ที่มีส่วนผสมของน้ำมัน ตามด้วยคลีนเซอร์สูตรน้ำ และโทนเนอร์สูตรน้ำที่อ่อนโยน ในวิธีการทำความสะอาดผิวหน้า 2 ขั้นตอนแบบล้ำลึก (Double Cleansing) ที่จะช่วยขจัดสิ่งสกปรกและเซลล์ที่ตายแล้วออก ปกติแล้วสกินแคร์ที่จะใช้ในการเติมน้ำให้ผิวคือ โทนเนอร์ อายครีม มอยส์เจอร์ไรเซอร์ และ แผ่นมาส์กหน้า ที่ใช้เพื่อบำรุงและให้ความชุ่มชื้นแก่ผิว มีสูตรแตกต่างกันออกไป ซึ่งปรับให้เหมาะกับประเภทผิวของแต่ละคนค่ะ สามารถใช้ได้ทั้งกลางวันและกลางคืน
ช่วยปรับโทนสีผิวและสภาพผิวให้ดีขึ้น
การมีโทนผิวที่สม่ำเสมอและสภาพผิวดี บ่งบอกถึงการมีสุขภาพผิวที่สุขภาพดีนั่นเองค่ะ แต่ไม่ใช่ว่าคนที่มีผิวไม่เรียบเนียนหรือมีผิวคล้ำจะไม่มีสุขภาพผิวที่ดีนะคะ การมีลักษณะผิวที่แตกต่างเป็นเรื่องธรรมชาติค่ะ หากเรารู้จักการดูแลผิวอย่างถูกวิธี ทุกคนสามารถมีผิวที่แข็งแรงได้ไม่ว่าสีผิวไหน หรือลักษณะไหนก็ตาม
โดยส่วนมากการดูแลผิวให้แข็งแรงและมีสีผิวที่สม่ำเสมอ เราจะใช้สกินแคร์ประเภท เอสเซนส์ เซรั่ม และแอมเพิล ในการดูแลและปรับโทนผิว เพียงใช้แค่เล็กน้อยก็ช่วยให้ผิวเราดูเปล่งปลั่ง เรียบเนียนขึ้นและดูอ่อนกว่าวัยอีกด้วยนะ
ช่วยชะลอวัยและการเสื่อมสภาพของผิว
วิธีการดูแลผิวแบบเกาหลี สามารถช่วยลดสัญญาณแห่งวัย เช่น พวกริ้วรอยหรือว่า ฝ้า กระ ต่างๆได้ค่ะ โดยส่วนประกอบสำคัญที่สามารถช่วยเติมความชุ่มชื้นให้ผิว สามารถลดเลือนจุดด่างดำและปัญหาอื่นๆ เช่น กรดไฮยาลูโรนิก กลีเซอรีน เซราไมด์ ชาเขียว เมือกหอยทาก และน้ำผึ้ง ที่มีสารต้านอนุมูลอิสระ และปกป้องผิวจากความเครียด เมื่อเราใช้เป็นประจำทุกวันจะช่วยให้ดูอ่อนเยาว์และมีสุขภาพดีได้ยาวนานขึ้น
Korean Skincare Routine เริ่มต้นยังไงดี
ตอนนี้ทุกคนก็เข้าใจแล้วใช่มั้ยคะว่าข้อดีของ วิธีการดูแลผิวแบบเกาหลี มีอะไรกันบ้าง ถึงเวลาที่จะเจาะลึกไปในขั้นตอนการดูแลผิวกันแล้วค่ะ วิธีการดูแลผิวแบบสาวเกาหลีเนี่ย ส่วนใหญ่จะเกี่ยวข้องกับการ ทำความสะอาดผิว ปรับสมดุลของผิวและโทน รวมไปถึงการให้ความชุ่มื้นแก่ผิวของเรา เพื่อช่วยรักษาสุขภาพของผิวและให้ผิวแข็งแรงขึ้น พี่รัศมีจะขอยก 5 วิธี จาก 10 วิธีของ Korean Skincare Routine มาให้ทุกคนได้ลองทำตามกันดูนะคะ
ขั้นตอนที่ 1: การทำความสะอาดผิวแบบล้ำลึก (Double Cleanse)
คือการทำความสะอาดผิวโดยใช้ cleansing ที่มีน้ำมันผสม เช่น คลีนซิ่งบาล์ม แล้วตามด้วยการทำความสะอาดโดยใช้ cleansing แบบธรรมดาค่ะ ข้อดีคือ ช่วยสลายความมันบนผิว เช่น ครีมกันแดดและเมคอัพจากนั้นเราก็จะล้างคราบน้ำมันที่หลงเหลืออยู่ด้วยคลีนเซอร์แบบธรรมดา เพื่อให้หน้าสะอาดมากยิ่งขึ้นนั่นเองคลีนเซอร์สูตรน้ำเหมาะที่สุดสำหรับการขจัดเหงื่อและสิ่งสกปรกที่มีน้ำเป็นส่วนประกอบ จึงเหมาะสำหรับทุกสภาพผิว
วิธีทำความสะอาดผิวแบบ Double Cleansing:
1. เริ่มด้วยการใช้คลีนซิ่งสูตรน้ำมันเช็ดหน้าและนวดเบาๆให้ทั่ว
2. ล้างออกด้วยน้ำ
3. จากนั้นใช้คลีนซิ่งสูตรธรรมดา นวดทั่วบริเวณใบหน้าอีกครั้งเพื่อขจัดความมัน
4. ล้างออกด้วยน้ำสะอาดและเช็ดให้แห้ง
เมื่อเราล้างหน้าด้วยวิธีนี้เป็นประจำ จะเห็นได้ชัดว่าหน้าจะชุ่มชื้น โทนผิวสว่างขึ้น และป้องกันสัญญาณแห่งวัยได้ด้วยค่ะ
ขั้นตอนที่ 2: การใช้โทนเนอร์เพื่อเตรียมผิว
โทนเนอร์เป็นส่วนสำคัญของการดูแลผิวของสาวเกาหลีเลยก็ว่าได้ค่ะ เนื่องจากโทนเนอร์จะช่วยปรับสมดุลค่า pH ของผิวและให้ความชุ่มชื้น สามารถช่วยขจัดเซลล์ผิวที่ตาย และช่วยให้ผิวกลับมานุ่มและเรียบเนียนอีกครั้ง ส่วนผสมส่วนใหญ่ของโทนเนอร์จะมี เช่น กรดไฮยาลูโรนิก ชาเขียว และสารสกัดจากธรรมชาติอื่นๆ
การเลือกโทนเนอร์ ควรทราบประเภทผิวของเราก่อนว่าเป็นอย่างไร และมีปัญหาผิวในด้านใด เช่น
คนที่มีผิวมัน – ควรมองหาผลิตภัณฑ์ที่ช่วยลดการผลิตน้ำมัน
คนที่มีผิวแห้ง – ควรเลือกผลิตภัณฑ์ที่ให้ความชุ่มชื้นเป็นพิเศษ
คนที่มีผิวแพ้ง่าย – ควรเลือกผลิตภัณฑ์ที่ปราศจากน้ำหอมและสี
วิธีใช้โทนเนอร์:
วิธีที่ถูกต้องคือ ให้แช่สำลีแผ่น หยดโทนเนอร์หลายๆ หยด แล้วค่อยๆ เช็ดให้ทั่วใบหน้าและลำคอ หรือใช้มือในการนวดให้โทนเนอร์ซึมซาบเข้าสู่ผิว เพื่อให้ได้รับระดับความชุ่มชื้นที่เหมาะสม โทนเนอร์ไม่เพียงแค่มอบความชุ่มชื้นเท่านั้น แต่ยังทำให้ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวอื่นๆซึมซาบเข้าสู่ผิวได้ดีขึ้นค่ะ ส่วนมากเราจะใช้โทนเนอร์ในขั้นตอนการเตรียมผิวก่อนลงสกินแคร์ตัวอื่นๆตามทีหลัง เช่น ทรีตเมนต์ เซรั่ม หรือ มอยส์เจอไรเซอร์ จะได้ซึมซาบสู่ผิวได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น
ขั้นตอนที่ 3: การใช้ทรีตเม้นท์ รักษาปัญหาผิว
การใช้ทรีตเม้นจะช่วยในเรื่องของการรักษาปัญหาผิวค่ะ เช่น สิว จุดด่างดำ และริ้วรอย การเลือกใช้มรีตเม้นท์ สิ่งที่ต้องคำนึงถึงเลยก็คือ ประเภทผิวและปัญหาผิวที่มีความเฉพาะ เช่น
ผู้ที่มีผิวเป็นสิว – ควรมองหาผลิตภัณฑ์ เช่น กรดซาลิไซลิกหรือเบนโซอิลเปอร์ออกไซด์
ผู้ที่มีผิวแห้ง – ควรเลือกใช้การบำรุงที่มีส่วนประกอบที่ให้ความชุ่มชื้น เช่น กรดไฮยาลูโรนิก
ผู้ที่มีผิวแพ้ง่าย – ควรใช้ผลิตภัณฑ์ที่เป็นสูตรอ่อนโยน ไม่ผสมน้ำหอมหรือสี
วิธีการใช้ทรีตเมนต์:
ให้ใช้ผลิตภัณฑ์ 2-3 หยดและนวดให้ซึมเข้าสู่ผิวค่ะ สามารถใช้ร่วมกับผลิตภัณฑ์อื่นๆได้ เช่น ครีมบำรุงรอบดวงตาและแผ่นมาสก์ เพื่อให้มั่นใจว่าใบหน้าของเราได้รับการดูแลที่ทั่วถึงได้แน่นอน
ขั้นตอนที่ 4: การใช้มอยส์เจอร์ไรเซอร์ เติมความชุ่มชื้น
ขั้นตอนนี้สำคัญมากเลยนะ พี่รัศมีขอบอก เพราะว่าเป็นการเติมความชุ่มชื้นให้ผิวเรา การมีความสมดุลของความชุ่มชื้นในผิวเนี่ยนะคะ เป็นสัญญาณที่ดีว่าเรามีสุขภาพผิวที่ดี นอกจากการดื่มน้ำที่ทำให้สวยจากภายในที่ทำให้ผิวเปล่งปลั่งแล้ว การบำรุงด้วยมอยส์เจอร์ไรเซอร์ก็ดีไม่แพ้กันเลย
สิ่งสำคัญ คือ ต้องเลือกผลิตภัณฑ์ที่เหมาะกับสภาพผิว
ผู้ที่มีผิวมัน – ควรเลือกสูตรปราศจากน้ำมันที่มีส่วนผสมที่ให้ความชุ่มชื้น เช่น กรดไฮยาลูโรนิก
ผู้ที่มีผิวแห้ง – ควรเลือกใช้มอยเจอร์ไรเซอร์ที่มีเนื้อครีมเข้มข้น
ผู้ที่มีผิวผสม – ควรลองใช้มอยส์เจอร์ไรเซอร์แบบเจล จะดีกับสภาพผิวมากกว่าค่ะ
วิธีการใช้มอยส์เจอร์ไรเซอร์:
ใช้มอยส์เจอร์ไรเซอร์ประมาณ 2-3 หยดและนวดเบาๆ หากเป็นประเภทครีม ควรทาในปริมาณที่เหมาะสม จากนั้นทาลงบนผิวและเกลี่ยให้ทั่วผิวหน้า มอยส์เจอร์ไรเซอร์สามารถใช้ร่วมกับผลิตภัณฑ์อื่นๆได้ เช่น ครีมบำรุงรอบดวงตาหรือแผ่นมาสก์ มอยเจอร์ไรเซอร์ที่มีเนื้อบางเบาสามารถใช้ร่วมกับไนท์ครีมได้ด้วยค่ะ สำหรับใครที่ชอบบำรุงผิวก่อนนอน
ขั้นตอนที่ 5: ทาครีมกันแดดเป็นประจำทุกวัน
มาถึงขั้นตอนสุดท้ายที่สำคัญไม่แพ้กันของ Korean Skincare Routine กันแล้วค่ะ ที่ขาดไม่ได้เลยยิ่งเราอาศัยอยู่ในเขตที่อากาศร้อนและแสงแดดแรงแบบนี้ อาจจะทำให้เกิดโรคผิวหนังจากแสงแดดได้ เมื่อเลือกครีมกันแดด ให้เลือกแบบ Broad Spectrum ที่มีค่า SPF 30 ขึ้นไป เพื่อป้องกันรังสี UVA และ UVB ได้ดีที่สุดค่ะ หากใครไม่แน่ใจว่าควรเลือกครีมกันแดดแบบไหนที่เหมาะกับเรา พี่รัศมีแนะนำให้อ่าน วิธีเลือกครีมกันแดด 2023 [เหมาะกับสภาพผิว] ดูกันนะคะ เผื่อว่าจะสามารถช่วยเราเลือกกันแดดที่เฉพาะให้กับประเภทผิวของเราได้
อย่าลืม!! ทาครีมก่อนออกแดด 15 ถึง 30 นาที และทาซ้ำทุกๆ 2 ชั่วโมง เพื่อประสิทธิในการปกป้องที่ดีค่ะ
สรุปบทความ Korean SkinCare Routine
สกินแคร์เกาหลีนั้นจะเน้นไปในทางที่ช่วยฟื้นฟูผิวให้ดูเป็นธรรมชาติ ค่อยๆเป็นค่อยๆไป มากกว่าการเติมแต่งให้ผิวดูดีขึ้นภายในเวลาที่รวดเร็วค่ะ ซึ่งหัวใจหลักก็คือ การเติมความชุ่มชื้นให้กับผิว ให้ผิวดูอ่อนวัย และดูแข็งแรงสุขภาพดี ซึ่ง วิธีการดูแลผิวแบบเกาหลีนี้มีประโยชน์มากมาย รวมถึงการช่วยลดเลือนริ้วรอยและจุดด่างดำ ช่วยคงสภาพของผิวให้แข็งแรง และทำให้ผิวเปล่งปลั่ง เพื่อให้ได้ลัพธ์ที่ดี ทุกคนลองทำตาม 5 ขั้นตอน นี้ดูนะคะ Double Cleanse, Toner, การใช้ทรีทเมนท์ การเติมความชุ่มชื้นให้ผิว และทาครีมกันแดด
แค่ทำ 5 ขั้นตอนนี้เป็นประจำทุกวันแล้วลองปรับไปเป็น 10 ขั้นตอน ทั้งเช้า-เย็น ก็จะทำให้ผิวดูสวยเหมือนคนเกาหลีเลยล่ะค่ะ พี่รัศมีรับรอง
คำถามที่พบบ่อย
1. วิธีการดูแลผิวแบบเกาหลี 10 ขั้นตอน มีอะไรบ้าง?
10 step Korean skincare routine หรือ วิธีการดูแลผิวแบบเกาหลี 10 ขั้นตอน เป็นขั้นตอนการดูแลผิวที่จะเน้นไปที่การเสริมสร้างเกราะป้องกันของผิว เพื่อปกป้อง และเติมความชุ่มชื้นให้กับผิวหน้า โดยประกอบด้วยการล้างหน้าด้วยวิธี Double cleasing (1-2) การผลัดเซลล์ผิว (3) โทนเนอร์ (4) เอสเซ้นส์ (5) แอมพูลหรือเซรั่ม (6) มาสก์หน้า (7) อายครีม (8) มอยส์เจอร์ไรเซอร์ (9) และสลีปปิ้งมาสก์หรือครีมกันแดด (10)
2. ต้องทำวิธีการดูแลผิวแบบเกาหลีครบทั้ง 10 ขั้นตอน ทุกวันมั้ย?
ไม่ต้องทำครบทุกขั้นตอนก็ได้ค่ะ ในตอนเริ่มต้น ทำแค่ 5 ขั้นตอนที่พี่รัศมีได้กล่าวในบทความนี้ก่อนก็ได้ สำหรับการดูแลผิวแบบเกาหลีทั้ง 10 ขั้นตอนนั้น ก็ไม่จำเป็นต้องทำครบทุกขั้นตอนในทุกวันค่ะ เพราะบางขั้นตอนควรทำแค่ 2-3 ครั้งต่อสัปดาห์เท่านั้น เช่น การขัดผิว หรือการใช้ Sleeping mask ในส่วนของการทำ Double Cleansing ก็ทำเฉพาะวันที่ต้องแต่งหน้า หรือเจอฝุ่นมลภาวะมาหนักก็ได้ค่ะ แต่ส่วนที่สำคัญที่ต้องทำทุกวันเลยคือการทาครีมกันแดดนะคะ ขาดไม่ได้เลย
3. ทำไมคนเกาหลีถึงมีผิวใส สุขภาพดี?
ชาวเกาหลีเค้ารักษาผิวให้สวย ไร้ที่ติมาตั้งแต่สมัยก่อนแล้วค่ะ โดยใช้ขั้นตอนการดูแลผิวที่อ่อนโยนด้วยส่วนผสมจากธรรมชาติ เช่น ชาเขียว เมือกหอยทาก สารสกัดจากไม้ไผ่ โพรโพลิส และน้ำผึ้ง รวมถึงสารเพิ่มความกระจ่างใสให้กับผิว เช่น สารสกัดจากข้าว วิตามินซี และชะเอมเทศ ในปัจจุบันก็จะเป็นการใช้ขั้นตอนการดูแลผิวของสาวเกาหลี 10 ขั้นตอนนั่นเองค่ะ